RSS

Category Archives: By Khun Shu

วาเซดะศรีราชา จัดกิจกรรมบรรยายพิเศษ งานแปลและล่ามในบริษัทญี่ปุ่น ณ คณะมนุษยศาสตร์ ภาควิชาภาษาญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยบูรพา

โรงเรียนสอนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ ศรีราชา จัดกิจกรรมบรรยายพิเศษ
แก่นิสิตชั้นปีที่ 3 และ 4 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ภาควิชาภาษาญี่ปุ่น
มหาวิทยาลัยบูรพา เมื่อวันพุธที่ 15 มิถุนายน 2554 ในหัวข้อ งานแปลและล่าม
ในบริษัทญี่ปุ่น การจัดบรรยายพิเศษนี้ เป็นส่วนหรึ่งของวิชาการแปล 2
วิทยากรโดย อาจารย์ชูอิชิ ทาคาฮาชิผู้อำนวยการสำนักงานมหาวิทยาลัยวาเซดะ
ประจำประเทศไทย

 

From Fukushima (end)

みなさん、こんにちは。

約2週間の福島(ふくしま)滞在(たいざい)が終わり、
昨日(4月12日)東京(とうきょう)へもどりました。
いま、このブログを羽田空港(はねだくうこう)の
出発(しゅっぱつ)ロビーで書いています。
今日(13日)は会議のため早稲田大学(わせだだいがく)へ
行ってきました。
まだ寒い福島ではつぼみだった桜(さくら)が、大学のキャンパスでは
もう散(ち)りはじめていました。
タイでもよく知られているように、日本人にとって桜は特別(とくべつ)な
花です。
花を咲(さ)かせるのは1年のうちほんの2週間たらず。
長く寒い冬をのりこえ、つぼみをふくらませたかと思うと、薄ピンクの花が
木の枝いっぱいに咲きほこり、あっという間に散っていくのです。
桜はとてもうつくしい花ですが、日本人はそこに人生(じんせい)の
短(みじか)さを重ね合わせます。
満開(まんかい)の桜の下を歩くと、「あと何回、この桜を
見ることができるだろう」という悲(かな)しみに似た
感情(かんじょう)がこみあげてくることもあります。
桜を楽しむことのできる回数が、残りの人生の年数に等しいことを、
日本人なら誰に教えられなくとも知っているのかもしれません。
地震と津波の被害を受けた福島から青森(あおもり)にかけての東北地方では、
4月中旬から下旬にかけて桜の季節(きせつ)をむかえます。

เขตพื้นที่หนาวๆอย่างฟุคุชิมะดอกซากุระยังไม่บานครับ
แต่ที่มหาวิทยาลัยวาเซดะดอกซากุระเริ่มที่จะร่วงโรยแล้ว

แม้แต่คนไทยเองก็รู้ดีว่า
สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วดอกซากกุระเป็นดอกไม้ที่มีความสำคัญเป็นพิเศษ

การที่ดอกซากุระบาน ในช่วงเวลา 1 ปี จะบานเพียงแค่ไม่ถึง 2 อาทิตย์เท่านั้นเอง

ผมคิดว่าเมื่อผ่านพ้นฤดูหนาวที่ยาวนานก็จะทำให้ดอกตูมนั้นผลิบาน
ดอกสีชมพูอ่อนจะผลิบานเต็มต้น จากนั้นก็จะร่วงหล่นไปในพริบตา

ถึงดอกซากุระเป็นดอกไม้ที่สวย 
แต่ชาวญี่ปุ่นก็ได้นำช่วงเวลาอันสั้นของดอกซากุระบาน
ไปเปรียบเทียบกับชีวิตคน

เมื่อเดินใต้ต้นซากุระที่บานเต็มที่
ผมก็เคยมีรู้สึกเศร้าขึ้นมาว่า

“จากนี่ไป ผมจะได้ชมซากุระได้สักกี่ครั้งนะ”    

ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นล่ะก็ คงจะรู้ดีว่า
ไม่มีใครไม่สามารถบอกได้เหมือนกันๆว่า
จะมีชีวิตเหลืออีกเท่าไหร่ ที่จะสามารถชมอกอกซากุระได้

ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่จังหวัดฟุคุชิมะ
ไปถึงจังหวัดอะโอะโมริที่ได้รับภัยจากแผ่นดินไหวและคลื่นซึนามิ
จะเข้าสู่ฤดูกาลดอกซากุระบาน ตั้งแต่เดิอนกลางเดือนเมษาเมษายน
ไปจนถึงประมาณสิ้นเดือนเมษายน

* วาเซดะขอขอบคุณ คุณอ้อย อรพินท์ ปทุมมณีสุข นักเรียนหลักสูตรภาคค่ำ
ที่ช่วยแปลบทความตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนจบ

ขอบคุณมากๆค่ะ ไว้มีโอกาสมาร่วมกิจกรรมแปลอีกนะคะ

 

From fukushima (7)

こんにちは。

福島県(ふくしまけん)南相馬市(みなみそうまし)で
ボランティア活動をつづけています。
今日(4月11日)は津波の被害(ひがい)をうけた方の家の
片づけをてつだいました。
いっしょに活動したのは、横浜(よこはま)からやってきた2人の
大学生(だいがくせい)です。
被災地(ひさいち)の困っている人たちの様子をニュースで見て、
「何かをしなければならない」と自分の車を運転してきたそうです。
私たちが片づけたのは、75歳のご夫婦が住んでいた家で、
床(ゆか)の上約30センチメートルまで水につかってしまいました。
家の中の泥(どろ)をかきだして、使えなくなった家具(かぐ)を
運び出しました。
物を捨てるときは、必ずご夫婦に確認(かくにん)します。
壊れていたり、泥をかぶっていてゴミのように見えても、
持主にとっては大切な思い出の品物だからです。
ぬれて重くなった畳(たたみ)を運び出すときは、
若い大学生の2人が活躍(かつやく)しました。
和室(わしつ)を片づけることができました。
ご夫婦は「自分たちだけでは片づけることができないので
とても助かった。この家にもう一度住むことができるかわからないが、
できるだけきれいにしたい」と話していました。
この家の周りでは、いまも自衛隊(じえいたい)や警察(けいさつ)が
行方不明者(ゆくえふめいしゃ)をさがしつづけています。

ตอนนี้ผมก็ยังทำกิจกรรมอาสาสมัครในอำเภอมินามิโซมะ จังหวัดฟุคุชิมะต่อไปครับ
วันนี้ (11 เมษายน) ผมได้ไปช่วยเก็บกวาดบ้านเรือนของผู้ที่ได้รับความเสียหายจากคลื่นซึนามิ
ผู้ที่มาร่วมช่วยกันเก็บกวดก็คือนักศึกษามาหาวิทยาลัย 2 คนที่มาจากโยะโกะฮะมะ
เมื่อพวกเขาได้เห็นสภาพเหตุการณ์ของผู้ที่กำลังเดือดร้อนในพื้นที่ประสบภัยแล้ว
คิดว่า “จะต้องทำอะไรบางอย่างแล้วล่ะ”  จึงได้ขับรถส่วนตัวมาที่นี่

บ้านที่พวกเราช่วยกันเก็บกวาดก็คือบ้านของสามีภรรยาวัย 75 ปี
ซึ่งเคยมีน้ำท่วมพื้นบ้านสูงประมาณ 30 เซนติเมตร

พวกเราโกยโคลนภายในตัวบ้านออกมา
ขนเครื่องเรื่อนที่ไม่สามารถใช้ได้เอาออกมาข้างนอก

ตอนที่ต้องทิ้งสิ่งของบางอย่างที่พังเสียหาย 
ของที่เปื้อนโคลนจนเละราวเป็นขยะ เราก็ต้องสอบถาม 2 สามีภรรยาก่อน
ก็เพราะว่า สำหรับเจ้าของบ้านแล้ว
สิ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งของแห่งความทรงจำอันมีค่า

ตอนที่ขนเสื่อตะตะมิอันหนักอึ้งเพราะเปียกน้ำออกมา
ก็ได้ 2 นักศึกษาหนุ่มนี่แหละครับเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง
และเราก็เก็บกวาดห้องแบบญี่ปุ่นจนเสร็จ

สองสามีภรรยากล่าวว่า

“ด้วยลำพัง 2 คนไม่สามารถเก็บกวาดเองได้ จึงช่วยได้มากเลย
ถึงจะยังไม่รู้ว่าจะอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้อีกได้หรือไม่
แต่ก็อยากที่จะทำให้มันสะอาดที่สุดเท่าที่จะทำได้

บริเวณรอบๆบ้านหลังนี้ ยังคงมีทั้งกองกำลังรักษาตนเอง
และตำรวจที่กำลังออกตามหาผู้ที่หายสาปสูญอย่างต่อเนื่อง

 

From fukushima (6)

こんにちは。

今週(こんしゅう)も福島県(ふくしまけん)

でボランティア活動をしています。

地震(じしん)、津波(つなみ)、それに原子力発電所(げんしりょくはつでんしょ)の
事故(じこ)の被害を受けたここ南相馬市(みなみそうまし)には、
全国からカップラーメンや缶詰(かんづめ)、レトルトカレー、お菓子(かし)、
トイレットペーパーなどがたくさん届いています。
こうした支援物資(しえんぶっし)を市民(しみん)にくばるまえに、
建物(たてもの)に運(はこ)びこみ、種類(しゅるい)べつに分けて、
数をかぞえる作業(さぎょう)をします。
数がとても多いので、一日中作業をすると体じゅうの筋肉(きんにく)が
いたくなります。
物資(ぶっし)の箱(はこ)のなかには、送ってくれた人が書いた
メッセージが入っていることもあります。
子どもがかいた絵や、折り紙を見つけることもあります。
疲れているときにこうしたメッセージを読むと、またがんばろうと
力が出てきます。

สวัสดีครับ
สัปดาห์นี้ผมก็ยังอยู่ที่ฟุคุชิมะครับ

ตอนนี้ผมก็ยังทำงานเป็นอาสาสมัครอยู่ครับมีของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นมากมาย
เช่นบะหมี่สำเร็จรูปแบบถ้วย แกงกระหรี่สำเร็จรูป

ขนม การะดาษทิชชูู  สิ่งของเหล่านี้ถูกส่งมาจากทั่วประเทศ มาที่อำเภอมินามิโซมะ
ซึ่งเป็นที่ประสบภัยทั้งแผ่นดินไหว คลื่นสึนะมิ
นอกจากนี้ยังมีอุบัติเหตุโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์อีกด้วย

ก่อนที่จะนำของอุปโภคปริโภคที่จำเป็นที่ได้รับบริจาคมาไปแจกจ่ายประชาชน
พวกเราอาสาสมัครจะขนมาวางไว้ในตัวอาคาร ทำการแยกประเภท และนับจำนวน
เนื่องจากของมีจำนวนมาก  เมื่อต้องทำงานตลอดทั้งวัน
กล้ามเนื้อตามร่างกายก็ปวดเมื่อยไปหมดภายในกล่องของกินของใช้จำเป็น
จะมีข้อความของผู้บริจาคเขียนใส่ไว้

เป็นรูปภาพที่เด็กๆเขียนบ้าง หรือเป็นกระดาษพับเป็นรูปต่างๆ ก็มีเวลาที่เหนื่อยๆ พอได้อ่านข้อความเหล่านี้ ก็จะมีพลังกลับมาพยายามสู้อีกครั้ง

ผมจะขอแนะนำส่่วนหนึ่งของข้อความเหล่านั้นด้วยรูปภาพนะครับ

 

From Fukushima (5)

4月1日からボランティア活動(かつどう)をはじめました。
前回(4)で、「全国から届いた救援物資(きゅうえんぶっし)を受け取るため
多くの市民(しみん)が列(れつ)にならんでいる」と紹介しました。
しかし、自分でこうした物資を取りに来ることができない人もたくさんいます。
それは、一人で暮(く)らしているお年寄り(おとしより)や、障害者(しょうがいしゃ)の
方たちです。
こうした方のなかには、病気(びょうき)なのに薬(くすり)が足りないという
問題(もんだい)がある人も少なくありません。
私も南相馬市(みなみそうまし)災害(さいがい)ボランティアセンターの
ボランティアとして、こうした人たちを訪問(ほうもん)する活動をしています。
車にのってそうした方々の家に行き、健康状態(けんこうじょうたい)はどうか、
食べる物や薬が足りているかをききます。
写真にうつっているのは、2日間いっしょに活動した安藤(あんどう)さんです。
とても親切(しんせつ)でおもしろい方です。
食べる物や日用品が足りない場合は、車に積んできたものを渡します。
薬が足りなかったり、体調(たいちょう)が悪い場合は、センターに
電話して、専門のスタッフにきてもらいます。
こうしたお年寄りや障害者が、この町には何百人もいます。
70歳以上、なかには90歳近い方もいます。
地震(じしん)のあと、原子力発電所(げんしりょくはつでんしょ)の事故を
心配しながらずっとひとりで家の中にいたという方や、一度は避難(ひなん)したが
戻ってきたという方もいます。
ボランティアが訪問すると、お年寄りはとてもよろこんでくれます。
「若い人と話をするだけでも元気が出る」と言ってくれる人もいます。
「戦争(せんそう)を体験(たいけん)しているから、これくらいのことは
大丈夫(だいじょうぶ)だ」と話してくれたおじいさんもいます。
「ボランティアも大変だね」と、私たちにチョコレートをくれたおばあさんも
いました。
お年寄りが目に涙を浮かべて「ありがとう」と頭を下げるのを見ると、
こちらのほうが泣きたくなります。

ผมเริ่มทำกิจกรรมเป็นอาสาสมัคร ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นมา
จากตอนที่ 4 (ฟุคุชิมะ 4) ผมได้เล่าถึงชาวเมืองจำนวนมากที่เข้าคิวเรียงกันเป็นแถว

เพื่อมารับเครื่องอุปโภคบริโภคที่ส่งมาจากทั่วประเทศ

แต่ว่าก็มีคนจำนวนมากที่ไม่สามารถมารับของใช้จำเป็นที่นำมาบริจาคได้
อย่างเช่น คนชราที่อยู่ตัวคนเดียว หรือผู้พิการ ซึ่งหลายคนที่มีปัญหา
เนื่องจากป่วยและขาดแคลนยารักษาโรค

ในฐานะที่ผมเป็นอาสาสมัครของศูนย์อาสาสมัครเหตุภัยพิบัติอำเภอมินามิโซมะ
ผมไดไปเยี่ยมเยือนผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้  โดยนั่งรถไปตามบ้านคนที่ไม่สามารถ
เดินทางมารับของได้  ถามไถ่ถึงสุขภาพ ถามเรื่องอาหาร
และยารักษาโรคว่ามีเพียงพอหรือไม่

คนภาพถ่ายก็คือ อันโดซัง
ผู้ที่ร่วมทำงานอาสาด้วยกันเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งเค้าใจดีมากและเป็นคนที่ตลก

ในกรณีที่ของกินของใช้ไม่เพียงพอ ก็จะมอบของที่บรรทุกมาอยู่ในรถให้ไป

หากป่วย ขาดแคลนยา ก็จะโทรแจ้งเรียกเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาดูแล

ในเมืองนี้ก็มีคนชราและผู้พิการอยู่สัก 100 คน
ในบรรดาผู้ที่อายุเกิน 70 ปี ก็มีผู้ที่อายุใกล้ 90 ปีอยู่ด้วย

อย่างผู้ที่วิตกกังวลเรื่องอุบัติเหตุของโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์
ที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดแผ่นดินไหวก็จะอยู่แต่ในบ้านก็มี
ผู้ที่หลบภัยไปแล้วกลับมาอยู่บ้านก็มี

มีคนเคยเล่าให้ผมฟังว่า “คนชราแค่เพียงได้พูดคุยกับคนหนุ่มสาวเท่านั้นก็จะแข็งแรงขึ้นมา “ ดังนั้นเมื่ออาสาสมัครเข้าไปเยี่ยม ผู้เฒ่าผู้แก่ต่างก็ดีใจมาก

มีทั้งคุณตาผู้เคยผ่านประสบการณ์ช่วงสงครามมาแล้ว เล่าว่า
“เรื่องแค่นี้ (ความเสียหายในครั้งนี้) ไม่หนักหนาหรอก”

มีคุณยายท่านหนึ่งที่ให้ช็อคโกเล็ตกับพวกเราแล้วบอกว่า
“อาสาสมัครก็ลำบากเหมือนกันนะ”

พอได้เห็นผู้เฒ่าผู้แก่น้ำตาคลอเบ้า กล่าว “ขอบคุณ” และก้มศีรษะให้เท่านั้นแหละ
ทางผมก็อยากจะร้องไห้ออกมา

 

From Fukushima (4)

みなさん、こんにちは。

福島県(ふくしまけん)南相馬市(みなみそうまし)は
福島第一原子力発電所(ふくしまだいいちげんしりょくはつでんしょ)から
半径20-30kmのところにあり、「屋内退避(おくないたいひ)」の
区域(くいき)です。
「外へ出ないでください」という政府(せいふ)の指示(しじ)が出ていて、
人が歩く姿はほとんど見られません。
病院(びょういん)やガソリンスタンド、スーパーマーケットなどがほとんど閉まっていて、
残っている市民(しみん)は不便(ふべん)な生活(せいかつ)をしています。
こうした人たちを助けるため、日本全国(にほんぜんこく)から
救援物資(きゅうえんぶっし)がたくさん届(とど)いています。
毎週(まいしゅう)2回、食べものや日用品(にちようひん)が
無料(むりょう)で配(くば)られます。
食べものはおコメやインスタントラーメン、缶詰(かんづめ)、野菜(やさい)、
お菓子(かし)などです。
日用品はオムツ、薬(くすり)、下着(したぎ)、布団(ふとん)などです。
こうした物が配られる日には、たくさんの人が列(れつ)にならびます。

 

อำเภอมินามิโซมะ ในจังหวัดฟุคุชิมะมีเขตพื้นที่ของอาคารผู้ลี้ภัยตั้งอยู่ในรัศมี 20-30 กิโลเมตร
ห่างจากโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ ฟุคุชิมะที่ 1
รัฐบาลได้ออกประกาศว่า “ อย่าออกไปข้างนอก” ดังนั้นจึงแทบจะไม่เห็นคนเดิน (อยู่นอกบ้าน) เลย

อย่างเช่นในโรงพยาบาล ปั้มน้ำมัน ซุปเปอร์มาเก็ต  ต่างก็ปิดกันเป็นส่วนใหญ่
เหลือแต่ชาวเมืองที่ใช้ชีวิตกันอย่างไม่สะดวกสบายนัก

สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจำนวนมากส่งมาจากทั่วประเทศญี่ปุ่น
เพื่อที่จะช่วยเหลือผู้คนที่ประสบภัย จำพวกของกิน ของใช้ในชีวิตประจำวัน

ส่วนของกินก็อย่างเช่น ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง ผัก ขนม
ของใช้ประจำวัน ผ้าอ้อม ยารักษาโรค ชุดชั้นใน และผ้าห่มเป็นต้น

มีผู้คนมากมายเข้าคิวเรียงกันเป็นแถวในวันที่มีการแจกสิ่งของ

 

 

From Fukushima (3)

みなさん、こんにちは。

これを書いているのは4月1日です。
地震(じしん)と津波(つなみ)がおきてから3週間がすぎました。
日本政府(にほんせいふ)はきょう、この地震の正式(せいしき=Official)な名前を
「東日本大震災(ひがしにほんだいしんさい)」とすると発表(はっぴょう)しました。
「大震災」とは、「とても大きな被害をもたらした地震」のことです。
ここ、福島県(ふくしまけん)南相馬市(みなみそうまし)では、いまも
毎日2-3回、余震(よしん=Aftershock)が続いています。
きょうの夕方、私は津波(つなみ)の被害(ひがい)を受けた海側の地区を訪れました。
私の自宅から車で10分ほどのところです。
テレビのニュースに何度も出ていた所ですが、自分の目で見たのははじめてです。
このあたりは海岸から山のほうへ3-4km、平らな土地になっていて、
田んぼや畑(はたけ)のなかに家が点々と建っていた、美しい風景が
広がっていたところです。
子どもの頃は海で泳(およ)いだり、自転車(じてんしゃ)で走ったりした、
楽しい思い出の場所です。
それが、何もなくなっていました。
あるのは、茶色い泥(どろ)と、こわれた家や車、電柱の残骸(ざんがい)ばかりです。
車をおりて、しばらく歩きました。
木で作られた大きな神社(じんじゃ)の建物(たてもの)が、めちゃめちゃになっていました。
「午後3時52分」で止まっている時計を見つけました。
地震の発生(はっせい)は3月11日の午後2時46分、津波がこの地区をおそったのは
それから10分後だと言われています。
この時計があった家がこわれ、流されてから1時間ほどは動いていたのでしょう。
泥(どろ)の中に、ピンクのバッグが落ちていました。
小さな女の子が使っていたものでしょう。
この子が津波から無事(ぶじ)に逃(に)げられたことを祈(いの)るばかりです。
春(はる)の夕日に照(て)らされて、海が遠くに光ってみえました。
あの静かな海が、この場所で1000人以上の命(いのち)を奪(うば)ったなどとは、
とても信じられません。
 

 

สวัสดีครับ ทุกๆคน
บทความที่เขียนอยู่นี่เป็นของวันที่ 1 เมษายนครับ
นี่ก็เกิน 3 สัปดาห์แล้วหลังจากเกิดแผ่นดินไหว และคลื่นสึนามิ
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตั้งชื่อ “ฮิกะชินิโฮนไดชินไซ “ ให้เป็นชื่ออย่างเป็นทางการ
ของเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้  และได้ออกแถลงการณ์ในวันนี้ด้วย
” ไดชินไซ” ก็คือ เหตุแผ่นดินไหวซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล
ในขณะนี้ที่เมืองมินามิโซมะ ในจังหวัดฟุคุชิมะ
ก็ยังมีอาฟเตอร์ช็อคเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวันวันละ 2-3 ครั้ง

เมื่อเย็นนี้ ผมได้ไปเยี่ยมเขตพื้นที่ริมทะเล
ที่ได้รับความเสียหายจากคลื่นซึนามิมาครับ
นั่งรถไปจากบ้านของผมก็สักประมาณ 10 นาทีครับ

แม้ว่าที่นี่จะออกข่าวทางทีวีหลายต่อหลายครั้งแล้วก็ตาม
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นกับตาของผมเอง

พื้นที่แถวๆ นี้ เคยมีทิวทัศน์ที่สวยงามกว้างใหญ่
มีบ้านปลูกเป็นหย่อมๆ อยู่ท่ามกลางเทือกสวนไร่นา
เป็นพื้นที่ราบจากชายฝั่งไปทางด้านภูเขาก็ประมาณ 3-4 กิโลเมตร

ที่นี่เป็นสถานที่แห่งความทรงจำอันแสนสนุกของผมครับ
ตอนเด็กๆ ผมก็มักจะไปเล่นน้ำทะเล ขี่จักรยาน วิ่งเล่นเสมอครับ
แต่สภาพเหล่านั้นตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว

สิ่งที่เหลือก็มีแต่พวก โคลนสีน้ำตาล บ้านและรถที่พังเสียหาย
ซากของเสาไฟฟ้า  ผมลงจากรถ แล้วเดินต่อไปอีกสักครู่นึง
ก็พบสิ่งก่อสร้างของศาลเจ้าขนาดใหญ่ซึ่งทำมาจากไม้ พังเสียหายยับเยิน

ผมยังพบนาฬิกาที่หยุดเดินที่เวลาบ่าย 3 โมง 52 นาที
เหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา บ่าย 2 โมง 46 นาทีของวันที่ 11 มีนาคม
แล้วคลื่นสึนามิก็เข้าโจมตีเมืองนี้หลังจากเกิดแผ่นดินไหว 10 นาที
นาฬิกาเรื่อนนี้พบที่บ้านในสภาพพังเสียหาย
ซึ่งมันยังคงเดินต่อไปอีกสักประมาณ 1 ชั่วโมง

ผมพบมีกระเป๋าเป้ใบใหญ่ตกอยู่ในโคลน
คงจะเป็นกระเป๋าที่เด็กผู้หญิง
ได้แต่เฝ้าอธิฐานให้เจ้าของกระเป๋าปลอดภัย

ผมมองเห็นทะเลที่อยู่ไกลๆ
สะท้อนแสงพระอาทิตย์ที่สาดส่องในยามเย็นในฤดูใบไม้ผลิ
ไม่อยากเชื่อจริงๆ เลยว่า ทะเลอันสงบนั่น
ได้คร่าชีวตคนถึงกว่า 1,000 ชีวิต จาก ณ สถานที่แห่งนี้

 
3 Comments

Posted by on 04/03/2011 in By Khun Shu, tsunami, with you Japan

 

From Fukushima (2)

こんにちは。

私は地震(じしん)と津波(つなみ)の被害(ひがい)にあった
福島県(ふくしまけん)南相馬市(みなみそうまし)にいます。
29日(火)に到着(とうちゃく)し、家族(かぞく)の手伝いをしたり、
家の片づけをしたりしています。
家が原子力発電所(げんしりょくはつでんしょ)から
半径(はんけい)30km以内の地域(ちいき)にあるので、
外に出るときは放射性物質(ほうしゃせいぶっしつ)が
体につかないよう気をつけなければなりません。
それで、写真にあるような服を着ています。
町の中を歩いている人はほとんどおらず、お店もすべて閉まっています。
家のすぐ近くの道路は、もう一枚の写真(しゃしん)にあるように
崩(くず)れて通れなくなっていました。
親戚(しんせき=relative)のなかに、津波で行方不明(ゆくえふめい)に
なった人が2人います。
祖母(そぼ)の弟と、いとこ(父のお姉さんの息子)です。
家にいたり、仕事をしたりしているところを津波に巻き込まれたようです。
この2人を探(さが)すため、身元(みもと)がわからない
遺体(いたい=dead body)を一時的(いちじてきに)に置いている
場所を訪ねて回りました。
このような場所を「遺体安置所(いたいあんちじょ)」といいます。
亡くなった人の数がとても多いため、学校の体育館(たいいくかん)や
使われていない工場(こうじょう)など、大きな建物(たてもの)が
使われています。
そのなかで見た、たくさんの遺体が棺(ひつぎ)に入れられて並んでいる様子は、
言葉では出来ないほど悲(かな)しいものでした。
これまでの人生(じんせい)の中で受けたことのないようなショックでした。
自分が悪い夢を見ているのではないか、と思えるほどでした。
地震の発生から20日が経ちましたが、2人は今も見つかっていません。
この地域は原子力発電所から近いため、行方不明の人や遺体を探す人が
放射能(ほうしゃのう)の影響(えいきょう)を受ける恐れがあるので、
十分な捜索活動(そうさくかつどう)ができない、と警察(けいさつ)の人が
話してくれました。
今日も、となりの村で高い放射能(ほうしゃのう)の値(あたい)が計測(けいそく)された
というニュースがありました。

原子力発電所の問題はまだ長く続きそうです。

ผมอยู่ในอำเภอ มินามิโซมะ จังหวัดฟุกุชิมะ
ที่ซึ่งเกิดความเสียหายจากแผ่นดินไหวและภัยสึนามิ
ผมได้เดินทางมาถึงที่นี่ในวันอังคารที่ 29 มีนาคม
จากนั้นผมก็ได้ช่วยเหลือครอบครัว ช่วยจัดเก็บบ้านให้เข้าที่เข้าทาง

เนื่องจากตัวบ้านอยู่ในพื้นที่รัศมี 30 กิโลเมตร จากจากโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์
เวลาออกจากบ้านจึงต้องระวังไม่ให้สารกัมมันตภาพรังสีสัมผัสโดนร่างกาย
ผมจึงต้องใส่เสื้อผ้าอย่างที่เห็นในภาพ

คนที่เดินอยู่ในเมืองแทบจะไม่มีเลย ร้านค้าต่างก็ปิดกันหมด
ถนนที่อยู่ใกล้ๆบ้านก็พังเสียหายจนไม่สามารถขับผ่านไปได้
อย่างที่เห็นในภาพอีกภาพนึงนั่นแหละครับ

ในบรรดาญาติพี่น้องของผม
มี 2 คนที่หายสาบสูญไปเพราะสึนามิ ก็คือ น้องของคุณย่า
และลูกพี่ลูกน้อง (ลูกชายของพี่สาวพ่อ) ดูเหมือนว่าโดนซึนามิในระหว่างที่กำลังทำงานอยู่ที่บ้าน 

เพื่อที่จะตามหาญาติทั้ง 2 คนของผม
ผมจึงตระเวณไปที่สถานที่เก็บศพที่จัดไว้ชั่วคราว
ซึ่งศพที่เก็บไว้ที่นี่ก็ไม่รู้เป็นใครมาจากไหน

ณ สถานที่อย่างนี้เราจะเรียกว่า “อิทะอิอันฉิโจะ” (ที่ประดิษฐานศพ) 
เนื่องจากจำนวนผู้ตายมีเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่
อย่างเช่นโรงยิมของโรงเรียน หรือโรงงาน มาใช้เก็บศพ

และในนั่นผมได้เห็น สภาพศพที่อยู่ในโลงเรียงรายอยู่เต็มไปหมด 
ทำให้ผมรู้สึกเศร้าเสียใจจนไม่สามารถเอ่ยคำใดใดออกมาได้
ในชีวิตของผม ผมไม่เคยเจออะไรที่ช็อคอย่างนี้มาก่อนเลย
ทำให้ผมเกือบคิดไปว่า นี่ตัวผมฝันร้ายไปหรือเปล่านะ

เหตุแผ่นดินไหวก็ได้ผ่านมา 20 วันแล้ว ก็ยังหาญาติ ทั้ง 2 คนไม่พบ
ตำรวจเล่าให้ผมฟังว่าคนที่ตามหาผู้สูญหาย หรือผู้เสียชีวิตเอง
ก็หวั่นวิตกว่าจะได้รับอิทธพลของสารกัมตะภาพรังสี 
จึงไม่สามารถทำการค้นหาได้อย่างเต็มที่
เนื่องจากบริเวณนี้ใกล้กับโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์

ในวันนี้มีข่าวว่ามีการตรวจวัดค่ากัมมันตภาพรังสีที่อยู่ในเกณฑ์ที่สูงที่หมู่บ้านข้างๆ ด้วย
ดูท่าว่าปัญหาโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ยังคงอยู่อีกนาน

 
 

From Fukushima

みなさん、こんにちは。

私(わたし=Khun Shu)はいま、日本の福島(ふくしま)にいます。
バンコクから東京、仙台(せんだい)へと飛行機や夜行バスを乗りつぎ、
2日かかって今日、福島(ふくしま)の南相馬(みなみそうま)につきました。
ここには私が生まれそだった町で、いまも家族(かぞく)が住んでいます。
今回の地震(じしん)と津波(つなみ)で大きな被害(ひがい)を受けました。
この町の海の近くでは10m以上のつなみが来て、何百人もの人が亡くなったり、
行方不明(ゆくえふめい)になったりしています。
私の家族は全員が無事(ぶじ)で、家も少し壊れただけでした。
でもいま、もうひとつの大きな問題(もんだい)がおきています。
それは、原子力発電所(げんしりょくはつでんしょ=nuclear power plant)の
危険(きけん)な状態(じょうたい)が続いていることです。
私が今いる場所は、福島第1原子力発電所(ふくしまだいいちげんしりょくはつでんしょ)から
半径(はんけい)30km以内のエリアにあります。
政府(せいふ)から屋内退避(おくないたいひ)、つまり「放射能(ほうしゃのう)が
あぶないので、外へ出ないで家の中にいてください」という指示(しじ)が
出ています。
これからしばらくここにいますので、タイワセダの学生、卒業生(そつぎょうせい)を
はじめこのブログを読んでくれているみなさんに、福島の今の様子(ようす)を
紹介したいと思います。
日本語の勉強に少しでも役に立つように、わかりやすい言葉で書きたいと思います。
きょうは、仙台からのバスに乗っているときに窓(まど)から見た、
町の様子を写真で紹介します。
地震の前、ここは海沿いの平野(へいや)に田んぼや畑(はたけ)のなかに
住宅(じゅうたく)が建っている、とても静かで美しい地域でした。
 

สวัสดีครับทุกๆคน 

 

ในตอนนี้ ผม (คุณชู) อยู่ที่จังหวัดฟุคุชิม่าของญี่ปุ่นครับ  

ผมใช้เวลาเดินทาง 2 วัน บินจากกรุงเทพไปโตเกียวโดยเครื่องบิน

แล้วต่อรถบัสเที่ยวกลางคืนไปจังหวัดเซนได   

 

และวันนี้ผมมาถึง เมืองมินามิโซมะ ในจังหวัดฟุกุชิมะ เรียบร้อยแล้วครับ  

มินามิโซมะเป็นเมืองที่ผมเกิดและโตครับ ตอนนี้ครอบครัวของผมอยู่ที่นี่
เมืองได้รับความเสียหายอย่างมากจากเหตุแผ่นดินไหวและภัยซึนามิในครั้งนี้ 

คลื่นสูงกว่า ๑๐ เมตรซัดเข้าบริเวณที่อยู่ใกล้ทะเลของเมืองมินามิโซมะ

ทำให้หลายร้อยคนเสียชีวิต และสูญหายไป

 

ครอบครัวของผมทุกคนปลอดภัยดี   ตัวบ้านเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่ว่าตอนนี้เกิดปัญหาใหญ่อีกอย่างคือ ปัญหาของโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์

ที่ยังอยู่ในสภาพที่เป็นอันตราย

 

สถานที่ที่ผมอยู่ตอนนี้นั้น อยู่ในรัศมีพื้นที่ 30 กิโลเมตร

จากโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ ฟุกุชิมะ ที่ 1 

รัฐบาลได้ออกคำสั่งให้หลบภัยอยู่แต่ในบ้าน บอกว่า

“สารกัมมันตภาพรังสีเป็นอันตราย ขอให้อยู่แต่ในบ้านอย่าออกไปข้างนอก”

 

ผมคิดว่าจะอยู่ที่นี่สักระยะหนึ่ง

และจะรายงานสถานการณ์ของฟุกุชิมะตอนนี้

ให้นักเรียนวาเซดะที่ไทยและศิษย์เก่าตลอดจนคนที่ได้อ่านบล็อคนี้ได้ทราบกัน

 

ผมจะเขียนด้วยถ้อยคำที่เข้าใจง่าย

เพื่อเป็นประโยชน์ในการเรียนภาษาญี่ปุ่นแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม

วันนี้ผมจะแนะนำสภาพของเมืองที่มองผ่านหน้าต่าง

ขณะที่กำลังนั่งรถบัสจากเซ็นไดด้วยภาพครับ

 

ก่อนเกิดแผ่นดินไหว ที่นี่เคยมีบ้านเรือนปลูกสร้างอยู่ท่ามกลางไร่นา

บนที่ราบชายฝั่งทะเล เป็นบริเวณที่เงียบสงบและสวยงามมาก

 



 

You & Me

 

Superfly が公式サイト

 

http://www.superfly-web.com/
で新しい曲「You & Me」を公開しました。

東日本大震災(ひがしにほんだいしんさい)の被災者(ひさいしゃ)
や被災地(ひさいち)を見守っている
全国の人々へ向けて贈られた作品だそうです。


 
 

地震(じしん)の被害(ひがい)にあった人たちへの応援(おうえん)ソング

日本で人気のある歌手(かしゅ)、「スキマスイッチ」が、今回の地震(じしん)と津波(つなみ)で

被害(ひがい)を受けた人たちを励(はげ)ますメッセージと歌「奏(かなで)」をYou Tubeに
アップしました。

とてもいい歌ですので、きいてみてください。

 

Information regarding delays in deliveries of admission-related documents due to postal service disruption caused by the earthquake

Dear Applicants,

In response to the recent earthquake in northeast Japan, we ask applicants
of the undergraduate and graduate schools accepting applications in March
2011 and April 2011 to take the following steps (This message is for applicants
of the admission processes/entrance exams handled by the International
Admissions Office. Applicants of other admission processes/entrance exams
should contact the respective admission offices):

1) If you are applying from an area of Japan experiencing postal delays,
please contact us in advance.

2) We recommend you to track your application package by using a delivery
confirmation service as a precautionary measure.

If you believe that your application package is not being delivered on time
due to disruption of postal services in Japan, contact us immediately.

3) We plan to deliver screening results and examination admission cards as
indicated in the application guidelines.
However, we may decide to deliver them by other methods (such as e-mail)
if we foresee delays in delivery due to disruption of postal services in Japan.

Contact: International Admissions Office, Waseda University
TEL: +81-3-3204-9073
E-mail: adm-iao@list.waseda.jp

 
Leave a comment

Posted by on 03/16/2011 in Announcement, By Khun Shu

 

日本にいるタイわせだ卒業生の皆さんへ

日本にいるタイわせだ卒業生の皆さん、
大丈夫ですか。
ケガをしていませんか。
ちゃんと家に帰ることができましたか。
タイの家族と連絡が取れましたか。
昨日発生した大きな地震(じしん)でとても怖い(こわい)思いをしたと思います。
現在、日本にはタイ早稲田を卒業し大学や日本語学校に留学しているタイ人学生が
東京を中心に100人以上います。
学校の先生やスタッフが学生たちが、皆さんのことをとても心配しています。
電話やメール、Facebook(waseda thailand)、blogなどを通じて皆さんに連絡をしていますので、
無事(ぶじ)であることを学校までお知らせください。
また、何か困ったことがあれば、学校ができることがあればお手伝いをしたいと思います。
他のタイの友人に関する情報などをあわせて、学校あてに連絡ください。
blogへのコメント、Facebook、メール(info@waseda.ac.ththailwaseda@gmail.com
電話(学校:+;66-2670-3456、Shomphoo:080-269-0678、Ning:083-605-2234、
たかはし:+66-86-613-3789)でもかまいません。
皆さん全員が元気で、一日も早く元通りの生活に戻れることを祈(いの)っています。
タイ早稲田日本語学校
 
12 Comments

Posted by on 03/12/2011 in Announcement, By Khun Shu

 

Norwegian Wood(ノルウェイの森)

เมื่อปีที่ผ่านมา  ภาพยนตร์เรื่อง Norwegian Wood(ノルウェイの森)ได้เข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว
และอีกในนานเกินรอก็จะเข้าฉายในเมืองไทยแล้วนะครับ


ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการถ่ายทอดมาจากนวนิยายชื่อดังที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
ผลงานการเขียนโดยนักเขียนชาวญี่ปุ่น ฮารุกิ มุระคามิ

ผลงานการเขียนของมุราคามิ เรื่อง Norwegian Wood  ภาคภาษาไทยนั้น
ได้รับการตีพิมพ์เป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าที่ประเทศไทยก็มีแฟนคลับจำนวนไม่น้อยเลยนะครับ

ฉากบรรยากาศในนวนิยายเรื่องนี้เป็นบรรยากาศในช่วงปลายปี 1960 ถึงช่วงประมาณต้นปี 1970
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่  มุราคามิได้ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ จึงได้นำบรรยากาศในมหาวิทยาลัย
และบริเวณรอบๆ มาเป็นฉากประกอบในผลงานชิ้นนี้

มีนักเรียนของโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ ที่ชื่นชอบในนวนิยายของฮารุกิ มุราคามิ

และอยากที่จะอ่านในภาคภาษาญี่ปุ่นได้ และด้วยความมุ่งมั่นและตั่งใจในการเรียนภาษาญี่ปุ่นของ
นักเรียนที่เป็นแฟนคลับของฮารุกิ มุระคามิ จึงทำให้เขาได้รับการคัดเลือกจากโรงเรียนให้ไปศึกษา

ต่อที่ศูนย์ภาษาญี่ปุ่นมหาวิทยาลัยวาเซดะ ประเทศญี่ปุ่น

เรื่องราวในนวนิยายนั้นได้เขียนถึงมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในโตเกียว แต่ถ้าหากใครเป็นนักศึกษา
ของมหาวิทยาลัยวาเซดะ ก็คงจะรู้สึกถึงการบรรยายบรรยากาศของสถานที่ต่างๆ ที่ได้กล่าวไว้ในนวนิยาย
เล่มนี้ที่ช่างเหมือนกับหอพักละแวกมหาวิทยาลัย เมือง ถนนหนทาง และบรรยากาศในแคมปัสของมหาวิทยาลัย
(แต่ทว่าเนื้อหาของเรื่องราวนั้น มุราคามิได้กล่าวไว้ว่า แต่งขึ้นโดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ของตนเอง )

ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับภาพยนตร์โดย ตรัน อานห์ ฮุง ชาวเวียดนาม และได้มีการถ่ายทำภาพยนตร์ภายใน
บริเวณวาเซดะ แคมปัส ด้วยครับ

ใครที่ชื่นชอบผลงานของฮารุกิ มุราคามิ หรือชื่นชอบการชมภาพยนตร์ ห้ามพลาดครับ
โดยเฉพาะนักเรียนที่กำลังจะไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยวาเซดะในเดือนเมษายน,
นักเรียนของโรงเรียนทุกคนที่จะเข้าร่วมหลักสูตรเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นสามสัปดาห์
ณ มหาวิทยาลัยวาเซดะในเดือนมีนาคม – เมษายน และพี่อ้อกับพี่ติ๊กกี้ เจ้าหน้าที่ของโรงเรียน
ที่จะไปดูงานที่มหาวิทยาลัยวาเซดะในช่วงเดือนกรกฎาคมครับ

こんにちは。

昨年日本で公開された映画『Norwegian Wood(ノルウェイの森)』がいよいよタイでも上映されます。

http://www.sahamongkolfilm.com/th/filmdetail.php?id=427

映画の原作は世界で最も有名な日本人の作家である村上春樹(むらかみはるき)さんの同名の小説です。

村上さんの作品は「ノルウェイの森」をはじめタイ語訳がたくさん出版されていて、

タイにもたくさんのファンがいますね。

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%B4_%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4

村上さんは早稲田大学文学部の卒業生で、小説の舞台も村上さんが学んでいた1960年代末から1970年代はじめの

早稲田大学とその周辺がモデルになっています。

村上春樹の小説が大好きで、日本語の原作を読みたくてタイ早稲田で勉強していた学生もいます。

そのフォンさんという学生はその後、早稲田大学日本語センターにタイ早稲田日本語学校からの特別推薦で留学しました。
小説では「東京の私立大学」としか書いてありませんが、早稲田大学の学生なら、小説のなかに出てくる

大学キャンパスや通りや街、学生寮の様子が早稲田大学周辺とそっくりなことに気がつくことでしょう。

(ただし物語の内容について村上さんは、自分の経験とは関係のない創作だとおっしゃっているそうです。)

この映画の監督はベトナム人のトラン・アン・ユン(ตรัน อานห์ ฮุง)さんです。

映画の撮影は早稲田大学のキャンパス内でも行われました。

4月から早稲田大学に留学する、または3-4月の日本語研修プログラムに参加する

タイ早稲田日本語学校の学生の皆さん、それから7月に人事研修で大学を訪問する予定の

タイ早稲田スタッフのオーさんとティッキーさんも、ぜひこの映画を見てください。


 
Leave a comment

Posted by on 02/15/2011 in By Khun Shu, Variety

 

ผลการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น ของนักเรียนโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะรอบเดือนกรกฎาคม 2553

การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น (JLPT) ในประเทศไทย ได้มีการจัดรอบสอบเพิ่มขึ้น
จากปีที่ผ่านมาได้เปลี่ยนแปลงการสอบเป็นปีละ 2 ครั้ง ในช่วงเดือนกรกฎาคมและธันวาคม
ซึ่งเดิมทีจัดเพียงแค่ปีละหนึ่งครั้งในช่วงเดือนธันวาคม

นักเรียนของโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ จำนวนมากที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจเรียน
เพื่อให้สามารถผ่านการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น โดยในปีที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่มีการจัดสอบ
ในเดือนกรกฎาคม แต่จำนวนนักเรียนที่เข้าสอบเมื่อเปรียบเทียบกับรอบเดือนธันวาคม
ดูเหมือนว่าจะน้อยกว่า

จากการรวบรวมผลการสอบของโรงเรียน จำนวนผู้ที่สอบผ่านในระดับ N3 เป็นต้นไป มีจำนวนดังนี้

ระดับ N1 ผ่าน 1 คน (จากจำนวนผู้เข้าสอบ 4 คน)
ระดับ N2 ผ่าน 7 คน (จากจำนวนผู้เข้าสอบ 11 คน)
ระดับ N3 ผ่าน 35 คน (จากจำนวนผู้เข้าสอบ 39 คน)

ผู้ที่ต้องการใช้ภาษาญี่ปุ่นในการทำงานนั้นควรสอบผ่านอย่างต่ำในระดับ N3 (ความรู้ระหว่างระดับ 3 และ 2 JLPTแบบเก่า)
จากที่ผมได้พูดคุยกับเจ้าหน้าของบริษัทจัดหางาน ระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่นของล่ามในบริษัทญี่ปุ่นที่ประเทศไทย
ที่เป็นที่ต้องการคือ ผู้ที่ผ่านการสอบวัดระดับตั่งแต่ระดับ N2 ขึ้นไปครับ

ตอนนี้ผลการสอบรอบที่ 2 ในช่วงเดือนธันวาคม ที่ผ่านมาก็ใกล้จะประกาศแล้วนะครับ
ผมจึงขออธิฐานให้นักเรียนทุกคน ขอให้สอบผ่านกันนะครับ

 

日本語能力試験のタイ国内での実施回数が昨年から増えました。

これまでは年1回、12月だけでしたが、昨年から7月と12月の年2回になりました。

タイ早稲田日本語学校には日本語能力試験合格を目指して勉強している学生もたくさん

いますね。昨年ははじめての7月開催ということもあり、受験した学生は12月の回に比べて少なかったようです。

学校が集計した結果によれば、N3級以上の合格者数は以下の通りでした。

N1級:1名(受験者4名)、N2級:7名(受験者11名)、N3級:35名(受験者39名)

日本語を使って仕事をするには最低N3級(昔の試験の3級と2級の間の

レベル)に合格していることが求められます。

人材紹介会社のスタッフの話によれば、タイの日本企業が求める通訳の日本語能力は「N2級合格以上」とのことです。

昨年12月の2010年第2回試験の結果ももうすぐ発表されますね。

たくさんの皆さんが合格していることを祈っています。

 
 

การบรรยายในหัวข้อ “การทำงานกับคนญี่ปุ่นและการทำงานเป็นล่ามภาษาญี่ปุ่น” ที่มหาวิทยาลัยบูรพา

 

วันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา โรงเรียนสอนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ ศรีราชา
ได้จัดการบรรยายพิเศษขึ้นในหัวข้อ “การทำงานกับคนญี่ปุ่นและการทำงานเป็นล่ามภาษาญี่ปุ่น”
ที่คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา โดยมีนักศึกษาเอกภาษาญี่ปุ่นชั้นปีที่ 3 และปีที่ 4
เข้าร่วมประมาณ 60 คน      นักศึกษาให้ความสนใจและตั้งใจฟังเป็นอย่างดี

ขอขอบพระคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปานเสก อาทรธุระสุข และคณะอาจารย์ทุกท่าน
ที่ให้โอกาสกับทางโรงเรียน สุดท้ายนี้ขอให้นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ทุกคน
ประสบความสำเร็จในการหางานตามที่คาดหวังไว้นะครับ

 

Waseda Study Trip in Japan 2011 ตอนที่ 3 : Odaiba

สวัสดีครับ

โรงเรียนสอนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ ได้จัดหลักสูตร
คอร์สเรียนภาษาและวัฒนธรรม ณ ประเทศญี่ปุ่น   ขึ้นใน
วันที่ 20 มีนาคม ถึง 7 เมษายน นี้ครับ
สัมผัสบรรยากาศการเรียนภาษาญี่ปุ่นและร่วทำกิจกรรมกับนักศึกษาญี่ปุ่นที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ

อีกทั้งยังได้เปิดประสบการณ์ใหม่ กับหลากหลายสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงโตเกียว
ครั้งนี้เป็นการนำเสนอในครั้งที่ 3 ครับ สถานที่ที่ผมจะขอแนะนำคือ โอไดบะ

โอไดบะเป็นย่านที่ตั่งอยู่บริเวณอ่าวโตเกียวและอยู่ทางฝั่งตะวันอกของใจกลางกรุงโตเกียว

เดิมทีสร้างโดยการถมทะเลขึ้นมา ปัจจุบันนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ
เนื่องจากมีสวนสาธารณะที่เงียบสงบและวิวทิวทัศน์สวยงาม อีกทั้งยังมี Shopping Center
และ อาคารสำนักงานรายล้อมอยู่

หากกล่างถึงโอไดบะแล้ว Rainbow Bridge ก็คงจะเป็นสิ่งที่หลายๆคนนึกถึง
สะพานที่ตั่งอยู่อย่างสง่า โดดเด่น อาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของโตเกียวก็ว่าได้

การเดินทางจากใจกลางกรุงโตเกียว ผู้คนส่วนมากมักจะนิยมขึ้นรถโมโนเรลที่เรียกว่า “ยูริคะโมะเมะ”
โดยรถไฟจะแล่นข้ามผ่านสะพาน Rainbow Bridge มา

ขอเพิ่มเติมอีกนิดนึงครับ รถไฟโมโนเรล “ยูริคะโมะเมะ” จะไม่มีพนักงานขับรถแต่จะควบคุม
การเดินรถด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ผมจึงแปลกใจนิดหน่อยเพราะตอนที่กำลังนั่งอยู่บนรถไฟ
พอมองไปที่หัวขบวนของทั้งสองข้างแล้วไม่พบใครนั่งอยู่

Shopping Center ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือ Decks Tokyo Beach และ Aqua City Odaiba
ชั้นที่ 4 ของ Decks ที่เรียกว่า Daiba 1-chome Retro Shopping Mall พื้นที่จำลองบรรยากาศขนาดย่อม
ของเมืองในยุค 1960 – 70 ได้อย่างลงตัว สามารถซื้อหาขนมและของเล่นของยุคสมัยนั้นได้ที่นี่ครับ
และที่ Aqua City ยังเป็นศูนย์รวมร้านราเมน 6 ร้านดังจากทั่วทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น
จะเลือกแวะร้านไหนดี ก็คงจะต้องเลือกกันอย่างลังเลใจหน่อยครับ

ยิ่งไปกว่านั้นที่ Palette Town Shopping Mall ยังมี Outlet mall (Venus Outlet)
และ Showroom (MEGAWEB) ของบริษัทโตโยต้าที่สามารถสนุกสนานเพลิดเพลินกับของเล่นภายใน
ได้เหมือนกับได้มาสวนสนุก อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมเทคโนโลยีล้ำยุค ทันสมัยให้ได้ดูกัน
และยังมีการจัดแสดงรถยนต์ของโตโยต้าอีกด้วย

นอกจากนี้ที่ PANASONIC CENTER ยังมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ของทางบริษัท และหากต้องการเรียนรู้
ในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในเชิงวิทยาศาสตร์ก็สามารถไปที่ National Museum of Emerging
Science and Innovation ได้อีกด้วย

โอไดบะจึงเป็นสถานที่ที่สามารถสนุกสนานเพลิดเพลินได้เต็มวัน กับการเรียนรู้ เที่ยวชม และจับจ่ายซื้อของ

 

Waseda Study Trip in Japan 2011 ตอนที่ 2 : Harajuku

สวัสดีครับ

โรงเรียนสอนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ ได้จัดโครงการ Study Trip in Japan
ขึ้นที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 20 มีนาคม – 4 เมษายน 2554
โดยครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4แล้ว
http://www.waseda.ac.th/-3-

 

Blog ที่เขียนขึ้นในครั้งนี้เป็นการแนะนำสถานที่ต่างๆที่มีกำหนดเที่ยวชมไว้ในโครงการครั้งนี้
สถานที่ที่ผมจะขอแนะนำในครั้งนี้ คือ ฮาราจุกุ ครับ

ฮาราจุกุนั้นอยู่ห่างจากสถานีชินจุกุเพียงสองสถานี  เป็นย่านที่มีชื่อเสียงมากในด้านแฟชั่น
ของประเทศญี่ปุ่น  เมื่อเดินออกมาจากหน้าสถานีรถไฟก็จะพบกับย่านร้านค้า
ที่เรียกว่า ถนน Takeshitaผู้คนที่เดินผ่านไปมาในย่านนี้นั้นแต่งกายกันหลากหลายสไตล์
ลำพังแค่เดินดูโดยไม่ซื้อหาอะไร ก็เพลิดเพลินเหมือนได้มาดู Fashion Show กันเลยทีเดียว

 

สมัยก่อนนั้นในย่านนี้จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาจากยุโรปและอเมริกา
แต่ในปัจจุบันมีชาวเอเชีย เช่น ไทยและจีน มาเที่ยวกันเพิ่มขึ้น
หากต้องการหาซื้อของฝากสไตล์ญี่ปุ่นในราคาสบายกระเป๋า ที่ถนน Takeshita
มีร้าน 100 เยน (Daiso) มีสินค้าจำหน่ายจำนวนมากให้เลือกซื้อกันได้อย่างจุใจ

ถัดมาอีกนิด ใกล้กับถนน Takeshita ก็จะพบห้าง La Foret Harajuku ที่ภายในได้รวบรวมร้านค้า
แฟชั่นไว้จำนวนมาก
http://www.laforet.ne.jp/

ที่นี่จะมีร้านที่จำหน่ายเสื้อผ้าแนว Gothic & Lolita หลากหลาย Brand ให้ได้เลือกซื้อกัน
อาทิเช่น ANGELICPRETTY, BABY, ALICE AND THE PIRATES, METAMORPHOSE,
Innocent World
, PUTUMAYO, BLACK PEACE NOW

ที่ฮาราจุกุนั้น มีร้านขายเสื้อผ้าที่เปิดร้านได้ใหญ่ตระการตา อย่าง GAP และ United Arrows
นอกจากนี้จากถนนสายใหญ่เข้าสู่ซอยเล็กๆ ก็จะได้พบกับพื้นที่ที่เรียกว่า  Ura – Harajuku
ที่แห่งนี้ เต็มไปด้วยร้านค้า จำนวนมาก และเป็นที่ที่ดีสำหรับผู้ที่เรียนทางด้านแฟชั่นและด้าน
ออกแบบเลยทีเดียว  แต่สำหรับผมแล้วชอบแวะตามร้านหนังสือและร้านกาแฟเล็กๆครับ
สำหรับฮาราจุกุแล้วภายใน 1 วันคงไม่สามารถแวะเที่ยวกันได้ทั้งหมดครับ

 

มีนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการกับเราในครั้งที่ผ่านมา บอกกับเราว่า ได้ใช้เวลาหลังเลิกเรียน
ไปฮาราจุกุมาแล้วหลายครั้ง เนื่องจาก จากมหาวิทยาลัยวาเซดะใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาที

สุดท้ายนี้ พูดถึงอาหารในย่านฮาราจุกุ ก็คงจะเป็น Crape อย่างแน่นอน

ถ้าไปถึงแล้วก็ต้องลองพิสูจน์รสชาติความอร่อยในแบบญี่ปุ่นแท้ๆกันดูนะครับ
ที่นี่เขามีหลายร้านให้เลือกทานกันครับ

 

Waseda Study Trip in Japan 2011 ตอนที่ 1 : ศูนย์ป้องกันภัยพิบัติอิเคะบุคุโระ

สวัสดีครับ

โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ จะจัดโครงการ Study Trip in Japan ขึ้น
ที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ ประเทศญี่ปุ่น ในระหว่างวันที่ 20 มีนาคม – 4 เมษายน 2554 โดยครั้งนี้
จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 แล้ว

จากนี้ไปผมจะขอแนะนำสถานที่ต่างๆที่มีกำหนดเยี่ยมเยือนในโครงการครั้งนี้นะครับ

สถานที่แรกที่ผมขอแนะนำให้รู้จักนั้น คือ ศูนย์ป้องกันภัยพิบัติอิเคะบุคุโระ
ศูนย์นี้ตั้งอยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟอิเคะบุคุโระ ซึ่งจัดการและดูแลโดยสำนักงานดับเพลิง
กรุงโตเกียว  ก่อตั้งขึ้นโดยวัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชนรู้ถึงความน่ากลัวของภัยพิบัติ
และการเตรียมตัวเพื่อรับมือ

สามารถมาพิสูจน์เหตุการณ์จำลองทั้งสี่ ได้แก่ เหตุการณ์แผ่นดินไหว การดับไฟ
การปฐมพยาบาล และการเผชิญกับควันไฟ ได้ที่นี่

ผมได้ยินมาว่าส่วนที่ได้รับความนิยมมากคือส่วนของการจำลองเหตุการณ์แผ่นดินไหวใน
ระดับ 7  การสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวนั้นมีอยู่ 10 ระดับ  ระดับ7 เป็นการสั่นสะเทือน
ที่แรงมากที่สุดครับ กล่าวคือมนุษย์จะไม่สามารถยืนอยู่ได้อย่างแน่นอน
และอาคารก็จะถล่มลงด้วยแรงสั่นสะเทือน

รูปนี้คือสัญลักษณ์ของสำนักงานดับเพลิง กรุงโตเกียว มีชื่อเรียกว่า 「Kyota kun」

อาจได้พบกันที่ศูนย์นะครับ

 

ศิษย์เก่าไทยวาเซดะ แห่งเมืองโกเบ

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับน้องฮุ้ง
ศิษย์เก่าของเราที่ไปเรียนต่อที่เมืองโกเบประเทศญี่ปุ่น
น้องฮุ้งเลยได้นำประสบการ์ต่างๆ มาเล่าให้เพื่อนๆได้ฟังกัน
เผื่อว่าใครอยากไปโกเบ  หรืออยากรู้ว่าโกเบเป็นอย่างไร

ลองอ่านกันดูครับ

ก่อนอื่นช่วยแนะนำตัวให้เพื่อนๆได้รู้จักด้วยนะครับ
ชื่อ ฮุ้งคะ ตอนนี้เรียนจบคอร์สภาษาของโรงเรียนสอนภาษาแห่งหนึ่งในโกเบแล้วคะ

แล้วไปเรียนภาษาญี่ปุ่นระดับไหนที่โกเบครับ
ตอนนี้เรียนจบในระดับ ไวยกรณ์ N1 แล้วคะ แต่ฮุ้งสอบระดับ N2 ผ่านเรียบร้อยแล้ว

แต่ขอยังไม่สอบ N1 ดีกว่าเพราะรู้สึกว่ามันสูงเกินไป (ฮุ้ง หัวเราะ)

แล้วจะทำอะไรต่อไปครับ
จะไปเรียนต่อที่โรงเรียนที่สอนทางด้าน Animation ที่กรุงโตเกียวค่ะ
เป็นหลักสูตร Animation 2 ปีสอบเข้าได้เรียบร้อยแล้ว
เริ่มเรียนเดือนเมษายน ปีหน้าคะ

แล้วตอนสมัครเข้าโรงเรียนต้องผ่านระดับN2 ก่อนหรือเปล่าครับ
เงื่อนไขของโรงเรียนนี้ ต้องเรียนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
และต้องผ่านการสอบสัมภาษณ์ก่อนเข้าเรียนคะ

เปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่า  แล้วชีวิตตอนอยู่ที่คันไซเป็นยังไงบ้างครับ อยู่มากี่เดือนแล้ว
อยู่ที่นั่น 9 เดือนแล้วคะ ใช้ชีวิตสนุกสนานมาก ส่วนมากก็จะไปเที่ยวคะ

ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้างครับ แล้วประทับใจทึ่ไหนบ้าง
ชอบวาคายามะค่ะ ที่นี่จะมีสวนสัตว์ด้วย แล้วก็มีสวนน้ำให้เราไปว่ายน้ำกับปลาโลมาได้ด้วย
พอตอนเย็นก็จะไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่เกาะที่มีรูตรงกลาง พอพระอาทิตย์ตกดินพระอาทิตย์
ก็จะอยู่กลางรูพอดี เป็นภาพที่สวยมากๆค่ะ

แล้วโกเบเป็นยังไงบ้างครับ
โกเบเป็นเมืองที่อยู่ใกล้ๆโอซาก้าคะ สามารถนั่งรถไฟมาได้ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
จุดเด่นของเมืองนี้ก็คือถ้ามองมาทางด้านหน้าก็จะเป็นทะเล แต่พอมองไปทางด้านหลังจะเป็นหุบเขาค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำ ถ้ามาโกเบก็อยากจะให้ไปฟาร์มแกะที่อยู่บนยอดเขาคะ
สามารถไปรีดนมแกะได้ด้วยตัวเอง ไปถ่ายรูปเล่นกับฝูงแกะ พอเรารีดนมแกะแล้วเราก็ยังสามารถเอานมนั้น
ไปทำไอศครีมด้วยตนเองได้อีกด้วย

ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนมแกะนั้น เขาก็จะนำไปผลิตไอศกรีมและชีส เพื่อจัดจำหน่าย
(ค่าเข้าชมฟาร์มแห่งนี้ 500 เยนคะ) ฟาร์มแห่งนี้ปิดเวลา17.30 น. หากไปเที่ยวที่นี่กัน
คงต้องรักษาเวลากันด้วยเพราะเดี๋ยวจะไม่ทันรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่ลงจากเขา
แต่ใครเกิดพลาดรถเมล์ก็คงต้องนั่งรถแท็กซี่เพื่อลงจากเขากัน (ขอบอกว่าแพงมากๆ)
หรือใครอยากนั่งชมบรรยากาศรอบหุบเขายามย่ำก็คงต้องเข้าพักที่โรงแรม Rockco Hotel
ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งเดียวบนหุบเขาแห่งนี้

ส่วนสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปมากที่สุดก็คงจะเป็น Kobe Tower  ที่ตั่งอยู่กลางอ่าวToron
(ค่าเข้าชม 300 เยนคะ) แต่หากใครที่เป็นนักเรียนที่มาอาศัพอยู่ในโกเบเป็นเวลา 1 ปี
ก็จะได้รับบัตรสำหรับท่องเที่ยวในเมืองโกเบฟรี ตลอดทั้งปี สามารถไปเที่ยวสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์
และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆในโกเบ หากใครเบื่ออาหารญี่ปุ่นหรือบรรยาศแบบญี่ปุ่นก็ขอแนะนำให้ไปที่
China Town เพราะที่นี่ บรรยาศเหมือนเยาวราชบ้านเรามาก สามารถไปซื้อเครื่องปรุงสำหรับทำอาหาร
ไทยกันได้ที่นี่นะคะ (แต่ราคาก็แพงเหมือนสินค้านำเข้าทั่วไป)

ที่โกเบยังมี Ijinkan เป็นบ้านพักของชาวต่างชาติสมัยก่อน บรรยากาศคล้ายๆกับยุโรปเลยค่ะ
บริเวณรอบๆมีร้านอาหารสไตล์ยุโรปให้เลือกรับประทานกันได้หลากหลายมาก แต่ถ้ามาเที่ยวชมกัน
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็จะได้รื่นเริงไปกับสียงดนตรีแจ๊สที่เปิดตลอดทั้งวัน เนื่องจากการไป Ijinkan
ต้องใช้เวลาเดินขึ้นไปและทางค่อนข้างชัน จึงควรเผื่อเวลาในการเดินทางด้วยนะคะ ใกล้ๆ Ijinkan
ก็มีภูเขาอีกลูกหนึ่งที่คู่รักนิยมไปคล้องกุญแจด้วยกัน เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งหนึ่งค่ะ
สำหรับคนที่ชอบสัตว์ทะเล ที่โกเบก็มี Aquriam ให้ไปเยี่ยมชมเหล่าสัตว์ทะเลกัน และถ้าไปเที่ยวชม
กันในช่วงนี้ก็จะได้เจอกับคุณ Santa ที่ว่ายน้ำอยู่กับเหล่าปลาโลมา

แล้วเรื่องอาหารการกินเป็นยังไงบ้างครับ
ก็ดีนะคะ ที่โกเบมีอาหารที่ทำด้วยนมและเนื้อโกเบ ที่ขึ้นชื่อและอร่อยมากๆเลยคะ

ไปเที่ยวโอซาก้ากับเกียวโตหรือยังครับ
ไปมาแล้วคะ เกียวโต สวย บรรยากาศดีมาก วัดเยอะ  ส่วนโอซาก้า ของกินเยอะคะ

สุดท้ายนี้ให้ฮุ้งช่วยฝากอะไรกับเพื่อนๆด้วยครับ ว่าควรเตรียมตัวก่อนไปญี่ปุ่นอย่างไร
ก็ถ้ายังเรียนวาเซดะอยู่ก็เรียนให้จบ Day 5 แล้วค่อยไปจะดีกว่านะคะ เพราะฮุ้งคิดว่าที่นี่สอนดีกว่าคะ

 

เปิดตัวอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สนามบินฮาเนดะ

เมื่อวันที่ 31 เดือนตุลาคมที่ผ่านมา สนามบินฮาเนดะได้ทำการเปิดอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
ผมจึงถือโอกาสไปทำงานที่กรุงโตเกียว ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ใช้สนามบินแห่งนี้เป็นครั้งแรก
การเดินทางจากใจกลางเมืองโตเกียวเมื่อเทียบจากสนามบินนาริตะแล้วสนามบินฮาเนดะนั้นใกล้กว่า
และยังสะดวกสบายในการต่อเครื่องบินภายในประเทศ เพื่อบินไปยังเมืองส่วนภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น
(ซัปโปโร, เซนได, นีงาตะ, โทะยามะ, คะโงะชิมะ เป็นต้น)

อีกทั้งสถานีรถไฟยังอยู่ในชั้นเดียวกับชั้นของผู้โดยสารขาออก คงจะทำให้ไม่เกิดการหลงทาง
ภายในตัวอาคารสนามบินมีร้านที่ออกแบบให้เป็นร้านค้าญี่ปุ่นสไตล์ดั่งเดิม และร้านค้าสไตล์ญี่ปุ่นสมัยใหม่
ให้ช้อปปิ้งกันอย่างเพลิดเพลินสนุกสนานในระหว่างช่วงเวลารอเครื่องบิน
(ราคาเมื่อเทียบกับอะซะคุสะหรืออากิฮาบาระแล้วแพงกว่า)

สายการบินที่บินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิ ได้แก่ Japan Airline, ANA, การบินไทย (TG)
ที่เปิดให้บริการอยู่ในขณะนี้ในด้านราคาค่าตั๋วเครื่องบินนั้นแพงกว่า เมื่อเทียบกับการบินไปลงที่สนามบินนาริตะ
เนื่องจากสนามบินฮาเนดะมีการกำหนดค่าธรรมเนียมสนามบินที่แพงกว่า

แต่หากคุณจะออกเดินออกจากสนามบินในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนนั้น คุณก็จะสามารถสนุกสนานกับการท่องเที่ยว
ช้อปปิ้งในโตเกียว ทำให้ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า (สนามบินนาริตะไม่มีเที่ยวบินที่บินมากรุงเทพหลังเวลา2ทุ่ม)

แต่ในครั้งนี้ผมได้เดินทางด้วยสายการบิน Cathay Pacific บินไปต่อเครื่องที่ฮ่องกง
ค่าตั๋วเครื่องบินนั้นเท่ากันกับกรณีที่ใช้สนามบินนาริตะ

หากใครที่จะไปเที่ยวหรือไปทำงานที่โตเกียวในครั้งหน้า คงไม่ได้มีเพียงแค่สนามบินนาริตะเป็นทางเลือกเดียว
อีกต่อไปแล้ว ลองหาเที่ยวบินที่ลงที่สนามบินฮาเนดะกันดูนะครับ แต่กรณีที่จะเดินทางไปที่ อุเอะโนะ
หรือไซทามะ หากใช้รถไฟ Skyliner จากสนามบินนาริตะก็คงจะใกล้กว่า ดังนั้นจึงควรลองเปรียบเทียบ
ค่ารถไฟและเวลาในการเดินทางดูนะครับ

 
 

Get Together Party in Tokyo‏

วันที่ 5 เดือนธันวาคม ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงานเลี้ยงนัดพบนักเรียนเก่า
ของโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ ประเทศไทย ขึ้นที่เมืองโตเกียว

จำนวนศิษย์เก่าที่มาในวันนั้นทั้งหมด 30 คน คือศิษย์เก่าที่ได้ไปศึกษาต่อยังประเทศญี่ปุ่น
และศิษย์เก่าที่ทำงานอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งอาจารย์ที่เคยสอนที่โรงเรียนเรา
สถานที่นัดพบนั้นคงจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ หากไม่ใช่ ร้านไทยเทวา ร้านของคุณบอล
นักเรียนที่จบการศึกษาจากไทยวาเซดะเช่นกันครับ

ผมดีใจมากๆแลยครับ ที่นักเรียนของเราเก่งภาษาญี่ปุ่นขึ้นเยอะเลย เยอะกว่าตอนเรียนที่นี่อีก
อีกทั้งนักเรียนทั้งเรียนด้วยทำงานด้วยเก่งจริงๆ  ดูเหมือนว่า การเขียนวิทยานิพนธ์ การทำวิจัย
การสอบเข้ามหาวิทยาลัย จะเป็นเรื่องที่ลำบาก แต่นักเรียนของเราก็ได้ใช้ชีวิตกันอย่างเต็มที่กันเลยเดียว
ทำให้ผมหมดห่วงจริงๆ จากนี้ไปก็คงจะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ก็ขอให้ระมัดระวังสุขภาพกันด้วยนะครับ
จะได้ไม่เป็นหวัดกัน สุดท้ายนี้ก็ ขอให้พยามกันต่อไปกับการเรียนและการทำงานนะครับ

* การเดินทางไปที่ร้านไทยเทวา *
ร้านอยู่ใกล้ๆกับสถานีโอยามะ เดินทางจากสถานีอิเคะบุคุโระด้วยรถไฟสายโทบุโทโจมา 3 สถานีเท่านั้น

 

ฤดูใบไม้ร่วงในโตเกียว

วันที่ 3 – 6 เดือนธันวาคมที่ผ่านมา ผมและอาจารย์นิชิคาวะ ได้ไปทำงานนอกสถานที่กันที่กรุงโตเกียว
พวกเราได้ร่วมเข้าประชุมที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ ไปเยี่ยมเยือนโรงเรียนสอนภาษา
อีกทั้งได้ไปทำการสัมภาษณ์ผู้เข้าสมัครที่จะมาเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนของเรา

ผมได้เก็บภาพบรรยากาศสวยๆบริเวณ แคมปัสวาเซดะ มาฝากทุกๆคนด้วยครับ

 

นักศึกษาที่อยากเข้าทำงานในบริษัทญี่ปุ่น ฟังทางนี้ (ตอนที่ 3)

สวัสดีครับ …
พบกันเป็นครั้งที่สามกับการนำเสนอเคล็ดความรู้และประเด็นสำคัญต่างๆ
ในหัวข้อกิจกรรมการหางานของนักศึกษาญี่ปุ่น

บล็อกที่เขียนขึ้นครั้งก่อนได้นำเสนอในหัวข้อสิ่งสำคัญของการสร้างความรู้สึกประทับใจ

มนุษย์เรานั้นส่วนมากจะรับรู้จากข้อมูลที่ผ่านเข้าสู่สายตาของตน กล่าวคือ
สี่งสำคัญของการเอาใส่ใจกับ “ข้อความนอกเหนือจากคำพูด” ที่ถูกส่งผ่านทางทั้งหมดของร่างกาย

วันนี้ ผมจึงขอนำเสนอฉากของการสัมภาษณ์ในกิจกรรมการหางานที่ได้เคยนำเสนอไปในครั้งที่แล้ว

 

1. กริยาท่าทางที่ถูกต้อง

พื้นฐานสำคัญของกริยาท่าทางทั้งหมดคือการยืดหลังให้ตรง ในขณะยืนนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่า
ส่วนของช่วงหลังจะยืดตรงแต่ควรระมัดระวังในขณะนั่งอยู่ ในขณะสัมมนา หากคุณนั่งโดย
เอนหลังชิดพนักเก้าอี้ จะทำให้ดูเหมือนว่าคุณไม่มีความกระตือรือร้น ควรแสดงความกระตือ
รือร้นออกมาด้วยกริยาท่าทางของคุณ การกระทำที่ดูดี สง่างาม ด้วยการเหยียดหลังตรง
เป็นการแสดงออกให้เห็นถึงความมั่นใจ จริงใจ และใส่ใจ

 

2. การกระทำที่ไม่รีบร้อน
ขณะปิดประตูห้องสัมภาษณ์ หากคุณปิดประตูด้วยพละกำลังจนทำให้เกิดเสียงดังแล้ว
สิ่งที่คุณทำลงไปนั้นคงไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้  หากคุณมีความรู้สึกรีบร้อน กระวนกระวาย
ก่อนที่จะเข้าสัมภาษณ์งาน คุณก็ควรใส่ใจและระมัดระวังการปิดประตูห้องสัมภาษณ์ โดยการค่อยๆ
ปิดประตูเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง อีกทั้งการ ปิดประตูอย่างค่อยๆนั้น จะทำให้ลดความรีบร้อน
กระวนกระวาย ซึ่งเป็นสิ่งแปลกที่คุณน่าจะลองนำไปทำดู ในการมอบของให้กับฝ่ายตรงข้าม
ให้ยื่นของให้ฝ่ายตรงข้ามแล้วสูดลมหายใจ1 ครั้ง จากนั้นตรวจสอบว่าฝ่ายตรงข้ามได้รับของ
จากคุณเรียบร้อยแล้วจึงปล่อยมือออกมา ความประทับอันดีของท้ายสุดนั้นคือความซาบซ่าน
ที่ยังคงเหลืออยู่ในใจ คุณอาจได้รับพิจารณาให้เป็นคนที่ทางบริษัทอยากพบอีกครั้ง

 

3. ไม่ควรกระทำกริยาสองอย่างพร้อมกัน

การทำอะไรหลายอย่างพร้อมกันนั้น อาจทำให้คุณถูกมองว่าเป็นคนซุ่มซ่ามไม่เรียบร้อย
หรือไม่ทำอะไรอย่างจริงจรัง หากกล่าวคำพูดทักทายแล้วค่อยโค้งคำนับ จะเป็นการสร้าง
ความประทับใจด้วยมารยาทที่ดีกับผู้สัมภาษณ์ การทำอะไรเป็นอย่างๆโดยไม่ทำไปพร้อม
กันนั้นจะเป็นการสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับตัวคุณ

 

4. การจัดวางนิ้วมือ

การวางนิ้วมือควรวางให้เป็นธรรมชาติโดยไม่ให้นิ้วแยกออกจากกัน  ขณะที่ต้องการมอบของ
ให้ฝ่ายตรงข้าม ให้ใช้มือทั้งสองข้างยื่นของให้กับเจ้าหน้าที่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
หากเป็นของชิ้นเล็กให้ใช้มือข้างหนึ่งยื่นและใช้มืออีกข้างหนึ่งจับที่บริเวณข้อมือของมือข้าง
ที่ยื่นของ การกระทำเช่นนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงการมีวินัยและคุณสมบัติที่ดี

 

5. ควรระวังเรื่องการใช้สายตา

การใช้สายตายนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก ขณะที่คุณจะมอบสิ่งของหรือระบุชี้สิ่งใดให้กับคู่สนทนา
มีทฤษฎีการมอง โดยมองจากคู่สนทนาไปยังสิ่งของและมองกลับมาที่คู่สนทนาอีกครั้ง
ขณะที่คุณต้องการยื่น Resume ให้กับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ คุณควรมองไปที่เขาจากนั้นยื่น
Resume และตรวจสอบว่าเขาได้รับResume ของคุณแล้ว จากนั้นให้คุณมองไปที่เขาอีกครั้งแล้ว
การทำเช่นนี้เป็นการแสดงออกอย่างจริงใจเปรียบเสมือนกับการพูดคำว่า 「よろしくお願いいたします」

 

หลังจากที่ได้อ่านดูกันแล้วเป็นอย่างไรกันบ้างครับ …

เนื่องจากคนญี่ปุ่นนั้นใส่ใจกับสิ่งเล็กๆน้อยๆเป็นอย่างมาก อาจมีบางส่วนที่ไม่สอดคล้องกับกิจกรรม
การหางานของคนไทยเท่าไร อีกทั้ง ถึงคุณจะเขียนสิ่งดีๆมากมายลงไปใน  Resume ตนเอง
หรือสัมภาษณ์ได้ดีแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่มีกริยามารยาทที่ถูกต้องดังที่ได้เขียนไว้ด้านบน
ก็อาจจะถูกประเมินติดลบได้ ดังนั้นก็ควรจะระมัดระวังเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

 
Leave a comment

Posted by on 12/03/2010 in By Khun Shu, Variety

 

นักศึกษาที่อยากเข้าทำงานในบริษัทญี่ปุ่น ฟังทางนี้ (ตอนที่ 2)

สวัสดีครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับได้ลองนำเกร็ดความรู้จากครั้งก่อนไปฝึกกันบ้างหรือยัง ?
ในครั้งนี้เราก็ยังคงนำเสนอเนื้อหาความรู้ประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับกิจกรรมการหางาน
ของนักศึกษาที่อยากเข้าทำงานในบริษัทญี่ปุ่น

คำถาม !!!

ภายในเวลา 15 วินาที คุณสามารถทำอะไรได้บ้าง

ไม่ว่าแท้จริงแล้วคุณเป็นคนอย่างไรก็ตาม คู่สนทนาของคุณก็จะตัดสินคุณ
ด้วยความรู้สึกเมื่อแรกพบนี้ภายใน 15 วินาทีแรกที่ได้พบและกล่าวทักทายกัน
ยิ่งกว่านั้น หากเกิดภาพเชิงลบในช่วงเวลาดังกล่าวก็ยากยิ่งที่จะแก้ไขในภายหลังได้

มนุษย์เราเมื่อเจอกันครั้งแรกก็มักจะ “อยากรู้และตัดสินว่าเป็นคนอย่างไรอย่างรวดเร็ว”
และมองหาปัจจัยในการตัดสินด้วยประสาทสัมผัสทัง 5 ของตน

ปัจจัย 83% ของการตัดสินจากการมองรูปลักษณ์ภายนอก เช่น รูปร่างหน้าตา
การแสดงสีหน้า กริยาท่าทาง เป็นต้น ปัจจัยอีก 11% นั้นจะตัดสินจากน้ำเสียงและวิธีการพูด

กล่าวคือ 94% ของความรู้สึกเมื่อแรกพบคือความรู้สึกจากการมองเห็นและการฟังนี่เอง

ความรู้สึกแรกพบมีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ในภายหลัง หากได้รับความรู้สึกที่ดี
ก็จะสามารถเปิดใจพูดคุยกันได้ หากกล่าวถึงการสมัครงานก็จะเป็นก้าวสำคัญสู่การจ้างงาน

คอร์สฝึกฝนการหางานของนักศึกษาญี่ปุ่น มีโปรแกรมที่ให้ถ่ายวีดีโอการฝึกแนะนำตัว
และให้เพื่อนร่วมชั้นทุกคนดู เพื่อที่จะเริ่มจากการสำรวจตนเองและรู้ถึงภาพของตนเอง
อีกทั้งยังได้รับความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู้สึกแรกพบตัวเราจากผู้อื่นด้วย
ทุกคนจะแลกเปลี่ยนความรู้สึกกัน เช่น “หน้าไม่ค่อยยิ้มเลย”
“ผมหน้าม้าปิดหน้าทำให้เห็นสีหน้าได้ยากนะ”

กำแพงสูงสุดในการสมัครงานคงจะเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้ นอกจาก “การสัมภาษณ์งาน”
เป็นด่านสำคัญที่คุณจะถูกตัดสินว่าคุณนั้นเป็นคนอย่างไรในเวลาชั่วพริบตา
การสัมภาษณ์งานมีเคล็ดลับสำคัญอยู่ 4 ประการ
เพื่อมอบความประทับใจครั้งแรกพบด้วยการสัมภาษณ์ในช่วงระยะเวลาสั้นๆและกลายเป็นผู้ที่ถูกเลือก

1)ควรมี Good smile & Eye Contact

2)ควรเอาใจใส่ดูแลรูปลักษณ์ของตนเองและแต่งกายให้สะอาดเรียบร้อย

3)ควรแสดงกริยาท่าทางอย่างกระตือรือร้น

4)พูดจาฉะฉาน ด้วยเสียงที่ไม่ดังหรือเบาจนเกินไป

งานของเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์คือพิจารณาสิ่งต่างๆจากผู้เข้าสัมภาษณ์ว่า

“อยากพบและพูดคุยอีกครั้งหรือไม่”

“เหมาะสมต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของบริษัทหรือไม่”

“เหมาะสมต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของบริษัทหรือเปล่า”

หากคุณสามารถมอบความประทับใจในการสัมภาษณ์งาน
คุณก็จะกลายเป็นคนที่บริษัทอยากพบอีกครั้ง

ขอให้โชคดีกับการสัมภาษณ์งานครับ

พบกันใหม่ในตอนที่ 3

 
Leave a comment

Posted by on 11/22/2010 in By Khun Shu, Variety

 

นักศึกษาที่อยากทำงานในบริษัทญี่ปุ่นฟังทางนี้ (ตอนที่1)

ช่วงนี้นักศึกษาไทยชั้นปีที่ 4 ก็เข้าสู่ช่วงภาคเรียนที่สองของการเรียนกันแล้ว
หลายๆคนคงเริ่มหางานกันก่อนที่จะจบการศึกษาในช่วงเดือนมีนาคม ของปีหน้านี้
นักศึกษาที่ต้องการเข้าทำงานในองค์กรญี่ปุ่นมักจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า
“ทำยังไงดีนะ ถึงจะสามารถเข้าทำงานได้”

ดังนั้น เราจึงได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาบอกเล่าเกล้าข่าวแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในหัวข้อของ
“กิจกรรมการหางานของนักศึกษามหาวิทยาลัย”
ซึ่งเป็นเนื้อหาสำคัญที่ถูกนำมาสอนในกิจกรรมการหางานของนักศึกษาญี่ปุ่น

 

ประเด็นแรกนั้นเป็นเรื่องง่ายๆและถูกให้ความสำคัญมาก นั่นคือ เรื่องของการมีใบ้หน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
เรื่องนี้อาจเป็นรื่องที่คนไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญสักเท่าไร เพราะประเทศไทยนั้น
ขึ้นชื่อว่าเป็น สยามเมืองยิ้มอยู่แล้วแต่ทางด้านความคิดของคนญี่ปุ่นนั้นหากเราได้รู้
ก็คงจะเป็นประโยชน์ไม่น้อย

 

หากได้เข้าไปทำงานในบริษัทญี่ปุ่นแล้ว การเข้าหาเพื่อทำความรู้จักกับรุ่นพี่, เพื่อนร่วมงาน,
ลูกค้า ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม จะเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งทำให้ผู้อื่นอยากที่จะร่วมงานด้วย
ซึ่งเป็นจุดที่สำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด

แล้วใบหน้าที่ยิ้มแย้มมีเสน่ห์นี้จะแสดงออกมาได้อย่างไร ?

 

ที่ญี่ปุ่นมักจะมีการสอนที่เรียกว่า การแสดงออกโดยใช้ปากและตา

โดยอันดับแรกนั้นให้เพื่อนๆ ลองฝึกพูดคำว่า “Candy” “Lucky” ที่หน้ากระจกดู
แล้วลองฝึกยิ้มให้มุมปากเชิดขึ้นเหมือนตอนพูด จากนั้น ให้ใช้มือปิดไปที่ปากขณะใบหน้าของเรา
ยังคงเป็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่ แม้ว่าจะมีเพียงแค่ดวงตาแต่เราก็ยังสามารถมองเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่

หางตาที่ต่ำลง เป็นการแสดงออกถึงความจริงใจหรือไม่ ?

ขณะที่เรามองไปที่ฝ่ายตรงข้ามอยู่นั้น ก็ควรจะระมัดระวังการใช้สายตาของเราด้วย
การที่เรามองไปที่ตาของฝ่ายตรงข้ามโดยใช้ Eye contactนั้นเพื่อเป็นการถ่ายทอดใบหน้าที่ยิ้มแย้มของคุณ

เพราะ Eye contact คือ การแสดงออกทางสายตาว่าต้อนรับและให้ความสนใจอยู่ กับฝ่ายตรงข้าม

 

หากคุณได้รับคัดเลือกให้เข้าสัมภาษณ์ในบริษัทที่อยากเข้าทำงานแล้ว
ลองใช้ใบที่หน้ายิ้มแย้มอันพราวเสน่ห์ของคุณในขณะที่ถูกทำการสัมภาษณ์
จะทำให้ผู้สัมภาษณ์รับรู้ถึงความรู้สึกยินดีของคุณ โดยไม่ต้องกล่าวออกมาด้วยคำพูดที่ว่า  …

“ฉันรู้สึกดีใจและยินดีมากที่ได้มาเล่าเรื่องราวของตนเองให้คุณได้ฟังและได้มาพบคุณในวันนี้
หากฝันของฉันเป็นจริงเราคงได้ร่วมงานกันนะคะ”

เพราะใบที่ยิ้มแย้มอันพราวเสน่ห์ของคุณนั้นจะเป็นตัวแทนทำหน้าที่ให้กับคุณ
เพียงแค่นี้คุณอาจได้รับการตอบรับจากบริษัทนั้นๆ ได้ด้วยเสน่ห์จากตัวคุณ

 

สำหรับคนที่กำลังสมัครงานกันอยู่ก็ลองนำเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ไปใช้กันดูนะคะ เผื่องานดีๆจะหล่นทับมาโดยไม่รู้ตัว

 

ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังหางานอยู่นะคะ

 
Leave a comment

Posted by on 11/15/2010 in By Khun Shu, Variety

 

วารสารของมหาวิทยาลัยวาเซดะนำเสนอเรื่องราวของโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ ประเทศไทย

วารสารของมหาวิทยาลัยวาเซดะ ฉบับประจำวันที่ 4 พฤศจิกายน
ได้นำเสนอเรื่องราวของโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ ประเทศไทย ไว้ในฉบับนี้
สามารถติดตามได้ที่  http://www.waseda.jp/student/weekly/contents/2010b/1230/230h.html

 

อีกทั้งนักเรียนที่สนใจสามารถอัพเดทข้อมูลข่าวสาร ของมหาวิทยาลับวาเซดะได้ที่

http://www.waseda.jp/student/weekly-e.html

 

จากร้านดอกไม้สู่ร้าน Jazz คอฟฟี่ช๊อป

เพียงห้านาทีจากวาเซดะแคมปัสโดยการเดินเท้า เราก็จะพบกับร้านคอฟฟี่ช๊อปที่มีชื่อว่า

“JAZZ NUTTY” เมื่อเราได้เปิดประตูสีเขียวเข้าไปก็จะได้พบกับโลก
ที่เต็มไป ด้วยเสียงดนตรี ภายในร้านนั้นมีโต๊ะเล็กๆพร้อมเก้าอี้ตั้งเรียงอยู่เพื่อสำหรับนั่งฟังดนตรี
ทางร้านมีจำหน่ายเฉพาะเครื่องดื่มเท่านั้น ไม่มีการจำหน่ายอาหารเนื่องจากทางเจ้าของร้านคิดว่า
หากจำหน่ายอาหารด้วยเสียงของการทำอาหารนั้นจะะทำให้รบกวนลูกค้าที่มาฟังดนตรี

ร้าน JAZZ NUTTY นั้นเป็นธุรกิจของคู่สามีภรรยา เปิดมาตั่งแต่เมื่อเดือนมกราคม ปี 2009
คำว่า “NUTTY” ที่เป็นชื่อร้านนั้นได้มาจากชื่อเพลงของ Thelonious Monk นักเปียนโนเพลงแจ๊ส
ที่คุณสามีชื่นชอบ ที่ความหมายโดยรวมนั้นหมายถึง “เพี้ยนๆ” “บ้าบอๆ”

ก่อนที่จะเปิดร้าน JAZZ NUTTY สามีภรรยาคู่นี้ได้เปิดร้านดอกไม้กัน มาก่อน
ทั้งสองเป็นคนอัธยาศัย ยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ จึงทำให้บรรยากาศภายในร้านดูอบอุ่น
พวกเขาเล่าว่า เปิดร้านดอกไม้มาเป็นเวลา 26 ปี แต่เนื่องด้วยแคมปัสของวิทยาลัย
ต้องการขยายพื้นที่จึงทำให้พวกเขา ต้องย้ายที่อยู่ เขาจึงตั่งใจว่าจะเปิดร้านค๊อฟฟี่ช๊อป
เพราะเป็นความต้องการ ของเขามาโดยตลอดจึงไม่เลือกทำกิจการร้านดอกไม้ต่อไป
พวกเขาคิดว่าการย้ายมาอยู่ใกล้กับ วาเซดะแคมปัส น่าจะมีคนโปรดปรานดนตรี JAZZ อยู่มาก
จึงมีบรรดานักศึกษาและอาจารย์มหาวิทยาลัยวาเซดะ แวะเวียนกันมาเป็นประจำ
อีกทั้งภายในร้านยังมีของประดับร้านแบบตั่งโชว์ที่นักศึกษาวาเซดะ ได้ทำให้ไว้ตกแต่งร้านอีกด้วย

ที่ซ่อนตัวของชาววาเซดะ

เขาได้พบกับภรรยาในมหาวิทยาลัย  Dokkyo ชมรม Modern Jazz
ดนตรีแจ๊สจึง เป็นสายสัมพันธ์ทำให้เค้าสองคนได้มาพบกัน ดนตรีแจ๊สจึงเปรียบเสมือน
สิ่งที่เขาขาดไม่ได้ในชีวิต ในสมัยที่เขาเรียนอยู่นั้น หากได้ไปร้านคอฟฟี่ช๊อปก็จะมีความรู้สึก
เหมือนได้ปลดปล่อยจิตใจไปกับท่วงทำนอง เขาจึงมีความตั่งมั่นอยากจะเปิดร้านค๊อฟฟี่ช๊อป
ที่มีลักษณะเช่นนี้ และแล้วความต้องการของเขาก็ได้เป็นจริง มีลูกค้าได้เคยบอกกับเขาว่า
เวลามาที่นี่แล้วรู้สึกสบายใจจึงอยากมาคนเดียวโดยไม่ชวนใคร
เพราะว่าบรรยากาศพร้อมกับเสียงดนตรีทำให้ลืมโลกภายนอกไปได้
สามารถอยู่กับตัวตนที่แท้จริงของตนเอง

การเดินทางมาของเจ้าลำโพงตัวนี้

ลำโพงเป็นสิ่งที่เจ้าของร้านภูมิใจมากๆ เขารับได้ลำโพงตัวนี้มาจากอาจารย์ท่านหนึ่งโดยบังเอิญ
ในตอนที่เขา ยังทำกิจการร้านดอกไม้อยู่ซึ่งขณะนั้นเขากำลังจะย้ายไปอยู่ที่ อื่นอาจารย์ท่านนี้
จึงนำมามอบให้แก่เขา มันเป็นสิ่งล้ำค่ามากสำหรับเขาเพราะในเวลานี้ไม่มีจำหน่ายในท้องตลาดแล้ว
แม้ว่าตอนที่เขาจะได้มาในสภาพที่ไม่สามารถใช้การได้ก็ตาม ในตอนนั้นเขาจึงตัดสินใจนำไปซ่อม
ที่เมืองยามางะมะ  เจ้า ลำโพงจึงถูกส่งตรงไปยังช่างซ่อมฝีมือดีและถูกส่งกลับมาในสภาพที่ใช้การได้
พร้อมกับขาตั้งลำโพงที่เหมาะสมกับเจ้าลำโพงตัวนี้ ลำโพงตัวนี้จึงเป็นลำโพงแห่งความภาคภูมิใจ
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่มีความสุขปนกับความเขินอาย

สำหรับผู้ที่เริ่มฟังเพลงแจ๊สนั้นเมื่อพูดถึงราชาแห่งเพลงแจ๊สสมัย ใหม่แล้วก็คงจะนึกถึง

Miles Dewey Davis ก็เหมือนกับ Thelonious Monk ที่เป็นราชาเพลงแจ๊สประจำร้าน NUTTY
และเขายังได้กล่าวไว้อีกว่า การที่จะถูกขนานนามให้เป็นราชาเพลงแจ๊สผู้ยิ่งใหญ่นั้นจะต้องมี
จุดเด่นของผลงานตนเองดังนี้ คือ อัลบั้มของพวกเขาจะต้องถูกกล่าวขานไม่ว่าจะถูกนำ

มาฟังกี่ครั่ง ก็ตามต้องให้ความรู้สึกดีในท่วงทำนองหากทำได้เช่นนั้นแล้ว พวกเขาจะค้บพบจิตวิญญาณ
ที่สวยมามผ่านท่วงทำนองของความสุขในการใช้ ชีวิต

สุดท้ายนี้เขายังได้ฝากข้อคิดเล็กๆน้อยๆสำหรับคนที่ต้องการ ค้นหาสิ่งใหม่ๆให้กับชีวิต
“ในการลงมือทำอะไรใน ครั้งแรกนั้นเราอาจมีเพียงแค่ความกล้าแต่เมื่อเราได้เปิดประตู
เพื่อต้อนรับสิ่งใหม่ๆแล้วเราอาจจะได้พบกับสิ่งใหม่ๆที่รอเราอยู่”

http://www.waseda.jp/student/weekly/contents/2010b/1228/228k.html

 

หวานปนขมใน “Melody♥Cup”

การแสดงร่วมของ นักแสดงจากญี่ปุ่นและไทย
กำกับการแสดงโดยศิลปินแถวหน้าจากญี่ปุ่น ทาดาสึ ทาคามิเนะ

 

“ผลงานของทาคามิเนะได้ย้ำเตือนเราว่า
อารมณ์และความรู้สึกคือสิ่งสำคัญในชีวิตที่ผูกพันเราเข้า ไว้ด้วยกัน”
– Bijyutsu Techo

หากคุณคือผู้ชมซึ่งชื่นชอบการแสดงกับความคิดที่ แปลกใหม่ เดือนพฤศจิกายนนี้
เตรียมพบกับผลงานการแสดงจากศิลปินแถวหน้าของญี่ปุ่นถึง สองกลุ่มด้วยกัน
เริ่มด้วยการแสดง Melody♥Cup โดย ทาดาสึ ทาคามิเนะ วันที่ 5 และ 6 พฤศจิกายน 2553

“Melody♥Cup” เป็นผลงานในมิติใหม่จากฝีมือการกำกับของศิลปินแถวหน้าด้านทัศนศิลป์
ทาดาสึ ทาคามิเนะ การแสดงที่สนุกสนาน และเต็มไปด้วยอารมณ์ขันชิ้นนี้
แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการสื่อสารกันของผู้คนจากต่างวัฒนธรรม
นำเสนอในรูปการแสดงที่น่าตื่นเต้นชวนคิดซึ่งจะก้าวข้าม
เส้นแบ่งระหว่างทัศนศิลป์และศิลปะการแสดง

ทาคามิเนะได้นำศิลปินและนักแสดงจากทั้ง ญี่ปุ่นและไทยมารวมตัวกันในการแสดงชิ้นนี้
“เพื่อสร้างสรรค์อนาคตร่วมกัน” หลังจากเปิดการแสดงครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วที่ AI HALL
เฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น เดือนตุลาคมนี้นักแสดงทั้งหมดจะมารวมตัวกันอีกครั้งที่ภัทราวดีเธียเตอร์
เพื่อสร้างสรรค์การแสดงชิ้นนี้ขึ้นใหม่เพื่อนำเสนอผู้ชม ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ

ทาคามิเนะได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น “ศิลปินด้านสื่อ วิดีโอ และศิลปะการจัดวางที่สามารถสร้างกระแส
จุดประกายความคิด และแหวกขนบที่สุดคนหนึ่งของญี่ปุ่น” ทาคามิเนะมีผลงานการใช้สื่อที่หลากหลาย
รวมถึงการแสดง ภาพยนตร์ และศิลปะการจัดวาง เพื่อกลั่นกรองกระบวนการสื่อสาร
และสร้างความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างตัวตนกับสังคม เขาได้ร่วมงานกับนักแสดงคนอื่นบ่อยครั้ง
อาทิเช่น ศิลปินคนสำคัญ อย่าง Ohad Naharin ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์จากคณะ BatSheva Dance Company
อันเลื่องชื่อ รวมถึง Daniel Yeung และเขายังเป็นหนึ่งในผู้แสดงของกลุ่ม Dump Type
กลุ่มศิลปินที่สร้างปรากฎการณ์ในช่วงทศวรรษ 1990 เขากำกับการแสดงหลายต่อหลายชิ้น
เป็นหนึ่งในผู้ร่วมแสดงผลงานในนิทรรศการ “สุก-ดิบอาทิตย์อุไทย” (จัดโดย เจแปนฟาวน์เดชั่น
และ หอศิลปะวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร) ช่วงปลายปีพ.ศ. 2552

“Melody♥Cup”เป็นส่วนหนึ่งของ “Project for the Future – Thailand+Japan” ร่วมนำเสนอโดย
AI HALL และได้รับการสนับสนุนจาก Asahi Beer Arts Production, The Saison Foundation
+ EU-Japan Fest Japan Committee, The Japan Foundation ร่วมกับภัทราวดีเธียเตอร์

สถานที่: โรงละครกลาง สวน ภัทราวดีเธียเตอร์
วันเวลา: วันศุกร์ที่ 5 และวันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา 20.00 น.
บัตรราคา 300 บาท (แสดงบัตรประจำตัวนักเรียนนักศึกษาลด 50%)
เริ่มจำหน่ายบัตรตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน ทาง Total Reservation
จองบัตรได้ทางเว็บไซต์ www.totalreservation.com หรือโทร. 02-833-5555

หรือติดต่อเคา นเตอร์ Total Reservation ที่สยามพารากอน ดิเอ็มโพเรียม
อิมแพ็คเมืองทองธานี สถานีบีทีเอสหมอชิต และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ห้างสรรพสินค้า
เดอะมอลล์ สาขาบางแค บางกะปิ ท่าพระ รามคำแหง งามวงศ์วาน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ภัทราวดีเธียเตอร์: www.patravaditheatre.com โทร 02-412-7287
เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพ: www.jfbkk.or.th โทร 02-260-8560-3

 

 

Thai Music Cafe at Waseda University

Thai Music Cafe (Oct. 13)
~Concert by Thai’s celebrated violinist and
introduction of the Hill Tribe in Northern Thailand~

Join us for 90 minutes of total submersion in Thai culture and music!

“Bathing in rivers and killing chicken for food.”
… does that sound unsettling to you?
This is just one of the many daily routines for the Hill Tribe in
Northern Thailand (the Karen people).
In the first session, members of the Students’ Organization
“Nakori” will give a presentation about their first-hand experience
on interaction and exchange with the Karen people.

In the second session, Ruaychai Saengow, a promising violinist
from Bankok, will deliver authentic classical music in a mini concert.
While discussing the world of music in Bangkok, he will play
“Royal Anthem”, a song prevalent in Thai movies and concerts,
and Bach’s “Partita in D minor for solo violin”.

We will also have spring rolls, a popular Thai dish!

Date & Time: October 13th (Wed) 4:30-6:00pm
Venue: 1st floor, Okuma Garden House (Bldg. 25)
Schedule:4:40-5:10pm First session
– A talk about the northern Thailand minority group
5:10-5:40pm Second session
– Live violin concert and music discussion
5:40-6:00pm Free time
Eligibility: Waseda students, faculty and staff members
Fee: Free!
Registration: Not required
Language: Japanese and English
(Also Chinese and Thai during the violin event)

◆Students’ Organization “Nakori”:
Educational Exchange with Hill Tribe in Northern Thailand Project
Involved in the Educational Exchange with the Hill Tribe in Northern
Thailand. Active in homestay programs at the villages of minority
groups, cultural exchange events with the local high schools, and
various other events that facilitate understanding and realization
of different moral values and ways of living through exchange and
interaction.

◆Guest performer:Ruaychai Saengow
Born in 1988, Ruaychai is a young, talented violinist who was born
and raised in Bangkok, Thailand. At the age of 16, he was included
as a member of the Bangkok Symphony Orchestra, a professional
orchestra in Thailand.
http://www.youtube.com/watch?v=Suqx_pnbCUQ

◆Program
1.Medley of Japanese songs(including Rentaro Taki’s “Hana”)
2.Thai Royal Anthem (note: not the Thai anthem)
http://www.youtube.com/watch?v=ESxCTdoEmbo&feature=related
3.”Partita in D minor for solo violin” by Bach
4.Chopin:Nocturnes(Milstein arrangement)/accompanied by Arisa Kawasugi

Cooperation:Rika Fukuda(pianist)
Holder of a scholarship at Royal College of Music, London
and awarded Postgraduate Diploma in Piano Solo and Chamber
Music. She took the role of the Artistic Director in the
150th Yokohama Port Opening Anniversary Piano Festival and
Competition, and was also a member of the jury for the
competition.

URL: http://www.waseda-icc.jp/eng/?p=2916

Inquiries:ICC  TEL: 03-5286-3990 E-mail: icc-cafe@list.waseda.jp

 
Leave a comment

Posted by on 10/06/2010 in By Khun Shu, News