RSS

Monthly Archives: July 2010

การสอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 ประจำปี 2553

การสอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่นที่ได้ดำเนินการจัด สอบมากว่า 20 ปีนั้น
ได้มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาการสอบเพื่อให้การวัดผลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นรูปแบบใหม่นี้ มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม 4 ระดับ (ระดับ 1-4) เป็น 5
ระดับ (N1-N5) ในการสอบครั้งที่ 1 ประจำปี 2553 (เดือนกรกฎาคม) ที่ผ่านมา ได้จัดสอบเพียง 3 ระดับ
คือ N1 N2 และ N3 ในการสอบครั้งที่ 2 ประจำปี 2553นี้ (เดือนธันวาคม) จะจัดสอบ 5 ระดับตั้งแต่ N1-N5

สามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นรูปแบบใหม่ได้ ที่ http://www.jlpt.jp

วันสอบ : วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม 2553
สถานที่จัดสอบมี 4 แห่ง : กรุงเทพฯ เชียงใหม่ สงขลา และ ขอนแก่น
สถานที่ : (วันและเวลาจำหน่ายและยื่นใบสมัครตามรายละเอียดข้างล่าง)

กรุงเทพฯ แห่งที่ 1
สมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่น ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สาขาพหลโยธิน)
(408 อาคารพหลโยธินเพลส ชั้นที่ 16 ห้องเลขที่ 408/65 ถนนพหลโยธิน
แขวงสามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร 02-357-1241-5)

  • จำหน่ายและยื่นใบสมัคร ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม – 23 กันยายน 2553
  • วันเวลา : วันจันทร์-วันพฤหัสบดี 09.00-19.00 น. วันศุกร์-วันอาทิตย์ 09.00-16.00 น.

กรุงเทพฯ แห่งที่ 2
สมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่น ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สาขาสีลม)
(1/7 ชั้น 2 อาคารสีบุญเรือง 2 ถนนคอนแวนต์
สีลม บางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทร 02-234-6951)

  • จำหน่ายใบสมัคร เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม – 22 กันยายน 2553
  • วันเวลา : วันจันทร์-วันพฤหัสบดี 09.00-19.00 น. วันศุกร์-วันอาทิตย์ 09.00-16.00 น.

เชียงใหม่
สมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่น ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานภาคเหนือ
3/3 ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
โทร 053-814-344 / 550

  • จำหน่ายและยื่นใบสมัคร ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม – 23 กันยายน 2553
    (หยุดวันที่ 12 สิงหาคม 2553)
  • วันเวลา : วันจันทร์-วันศุกร์ 10.00-19.00 น. วันเสาร์และวันอาทิตย์ 09.00-16.00 น.

สงขลา
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
(140 หมู่ 4 ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา 90000
โทร 074-311-885-7 ต่อ 1308 หรือ 1310)

  • จำหน่ายและยื่นใบสมัคร ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม – 10 กันยายน 2553
    (หยุดวันที่ 12 สิงหาคม 2553)
  • วันเวลา : วันจันทร์-วันศุกร์ 09.00-16.30 น.

ขอนแก่น
สถาบันภาษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น
(ชั้น 4 อาคารศูนย์วิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40002
โทร 043-204-141)

  • จำหน่ายและยื่นใบสมัคร ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม – 10 กันยายน 2553
    (หยุดวันที่ 12 สิงหาคม 2552)
  • วันเวลา : วันจันทร์-วันศุกร์ 09.00-17.00 น.
 
Leave a comment

Posted by on 07/28/2010 in Announcement

 

พิธีปฐมนิเทศเปิดภาคเรียนที่ 3 ประจำปี 2553

นักเรียนวาเซดะ ประจำภาคเรียนที่ 3 (กรกฎาคม-ตุลาคม 2553) เข้าร่วมพิธีปฐมนิเทศ ในวันเปิดภาคเรียนวันแรก ของนักเรียนหลักสูตรกลางวันเร่งรัด (Day Class) เมื่อเช้าวันอังคารที่ 20 กรกฎาคม 2553  ในพิธีมีการกล่าวต้อนรับนักเรียนโดยผู้บริหาร อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และให้นักเรียนแนะนำตัวเองรวมทั้งจุดมุ่งหมาย ในการเรียนภาษาญี่ปุ่น

This slideshow requires JavaScript.

 

แนะนำศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยวาเซดะ : เคอิจิ อูเอโนะ

ผมชื่อ เคอิจิ อูเอโนะ เกิดที่เมืองโกเบ อายุ 32 ปีแล้วครับ ผมเข้าเรียนมัธยมปลายที่ Honjo
โรงเรียนไฮสคูลของมหาวิทยาลัยวาเซดะ วิทยาเขตไซตามะ แล้วเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่
คณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกสังคมศาสตร์ครับ ผมมาอยู่เมืองไทยได้ประมาณ 3 ปีแล้ว
ตอนนี้ผมเปิดร้านอาหารชื่อร้าน “My Porch” เป็นร้าน “อาหารฝรั่งแบบญี่ปุ่น”
อยู่ที่ถนนสุขุมวิทซอย 39 ครับ

พอเรียนจบแล้ว ก่อนที่จะมาเปิดร้านอาหารเคยทำงานอะไรมาบ้างครับ
เนื่องจากผมมีความฝันว่าในอนาคตอยากจะเปิดร้านของตัวเอง ผมก็เลยไปสมัครเป็นพนักงานประจำ
ที่บริษัทร้าน Izakaya ซึ่งเป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงมากในญี่ปุ่น ที่นั่นผมมีโอกาสได้ทำงาน
เป็นผู้จัดการร้าน เลยได้เรียนรู้ระบบการทำงาน การจัดการ การบริหาร และความรับผิดชอบหลายๆ อย่าง
ผมทำงานที่บริษัทมาได้ประมาณ 7 ปีครับ พอเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเงินทุนจำนวนหนึ่งได้ก็ลาออก
เพื่อจะมาทำตามฝันที่จะมีร้านเป็นของตัวเองครับ

แล้วมาเปิดร้านอาหารที่เมืองไทยได้ยังไงครับ
ตอนที่ผมลาออก ตอนแรกก็คิดว่าอยากจะเปิดร้านในกรุงโตเกียว แต่พอดีเพื่อนของเพื่อนพ่อผมเป็นคนไทยครับ
เขาเป็นคนที่ชอบรับประทานอาหารมาก เขาก็เลยแนะนำให้ลองมาเปิดร้านอาหารที่เมืองไทยดู
ตอนแรกผมก็รู้สึกแปลกใจนะครับ เพราะไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน แต่พอได้มาเมืองไทยมาสำรวจตลาด
ก็คิดว่า มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้ และมีการแข่งขันกันน้อยกว่าที่ญี่ปุ่นด้วยครับ
ส่วนด้านเงินลงทุนก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ที่บ้านครับที่ช่วยกันลงขันให้ผมมาลงทุนเปิดร้านที่เมืองไทยครับ

ทำไมถึงเปิดร้าน “อาหารฝรั่งแบบญี่ปุ่น” ล่ะครับ
ที่จริงตอนแรกผมอยากเปิดร้านขายเครื่องดื่มพวกเหล้าญี่ปุ่น (Shochu Bar) แบบเก๋ๆ
แต่พอมาสำรวจตลาดจริงๆ ก็คิดว่าร้านแบบนั้นมีเยอะมากอยู่แล้วครับ การแข่งขันคงสูงมาก
อีกอย่างเชฟที่ผมพามาจากญี่ปุ่นก็ถนัดเรื่องอาหารฝรั่งด้วยครับ

คิดว่าอาหาร “อาหารฝรั่ง อย่างอาหารอิตาเลียน อาหารฝรั่งเศส”
กับ “อาหารฝรั่งแบบญี่ปุ่น” ต่างกันตรงไหนครับ

ผมคิดว่าอาหารแบบญี่ปุ่น เป็นอาหารที่ค่อนข้างรักษารสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบเอาไว้นะครับ
อีกอย่างญี่ปุ่นเองไม่ว่าจะรับวัฒนธรรมด้านอาหารจากชาติใดเข้ามาก็จะมีการดัดแปลงให้เป็นแบบญี่ปุ่น
หรือเหมาะกับรสนิยมของคนญี่ปุ่น และที่สำคัญคืออาหารญี่ปุ่นจะใส่ใจเรื่องรายละเอียดมากครับ

ตอนแรกคิดถึงกลุ่มลูกค้าเอาไว้ยังไงบ้างครับ
ตอนแรกคิดว่ากลุ่มลูกค้าน่าจะเป็นครอบครัวคนญี่ปุ่นนะครับแต่คิดว่าคนไทยน่าจะมาอุดหนุนมากกว่านี้หน่อย
อยากให้คนไทยได้มาลองรับประทาน “อาหารฝรั่งแบบญี่ปุ่น” ดูบ้างนะครับ

มีเมนูอะไรที่แนะนำเป็นพิเศษบ้างไหมครับ
ถ้าเป็นอาหารก็คิดว่าขอแนะนำเป็นพาสต้าครับ อร่อยแน่นอน เส้นพาสต้าของที่ร้านจะมีความพิเศษคือ
จะแข็งนิดหน่อยตามแบบฉบับของญี่ปุ่นครับ ส่วนของหวานผมแนะนำเป็นพุดดิ้งครับ




อยากฝากอะไรเกี่ยวกับกิจการร้านบ้างไหมครับ

ครับ ก็อยากให้คนไทยลองมาทานอาหารที่ร้านกันดูนะครับ นอกจากนี้ช่วงเดือนหน้า (สิงหาคม)
ผมก็มีโครงการที่จะเปิด Karaoke Box ใกล้กับร้าน My Porch ซึ่งมีจุดเด่นคือมีเพลงภาษาญี่ปุ่นมากกว่า 1 แสนเพลง
และเป็นเพลงใหม่ๆ ทันสมัยด้วยครับ นอกจากนี้ Karaoke Box ของผมจะมีเพลงภาษาไทยด้วยนะครับ แต่อาจจะน้อย
กว่าเพลงภาษาญี่ปุ่น ที่สำคัญถ้าไปร้องเพลงที่ Karaoke Box ก็จะสามารถสั่งอาหารจาก My Porch ไปทานได้ด้วยครับ
ซึ่งทางร้านของเรากำลังจะมีการปรับปรุงเมนู ให้มีภาษาไทย และมีรูปเพื่อให้ลูกค้าคนไทยสั่งอาหารได้ง่ายขึ้นครับ

สำหรับนักเรียนที่โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ หรือผู้ที่กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่
ผมก็ขออนุญาตเชิญชวนให้มาศึกษาภาษาญี่ปุ่นพร้อมได้รับความสนุกสนานด้วยการร้องคาราโอเกะ
ที่ Karaoke Box ได้นะครับ สุดท้ายนี้หากท่านใดสนใจสามารถติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับร้าน “My Porch”
ได้ที่ www.my-porch.com ครับ
ขอบคุณมากครับ

 

พิธีมอบประกาศนียบัตรนักเรียน Day Class เทอม2/2553

Graduated Ceremony พิธีมอบประกาศนียบัตรนักเรียนที่จบหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นหลัก สูตรกลางวันเร่งรัดประจำ เทอมที่ 2 ปีการศึกษา 2553 เมื่อวันพุธที่ 14 กรกฎาคม  2553  นอกจากนี้ยังมอบรางวัลประกาศนียบัตรให้แก่นักเรียนยอดเยี่ยมและนักเรียนคน ขยัน จากนั้น นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาได้กล่าวคำอำลาเป็นภาษาญี่ปุ่นและถ่ายรูปร่วมกัน เป็นที่ระลึก

This slideshow requires JavaScript.



สุนทรพจน์ โดยคุณน๊อต พนักงานจากบริษัทไทยโอบายาชิ

สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อน๊อต เป็นนักเรียน Day 4 ครับ ผมเรียนที่โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะมาตั้งแต่ Day 1 รวมเป็นเวลาประมาณ 1ปีแล้วครับ ด้วยความกรุณาของบริษัททำให้ผมมีโอกาสได้ไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น ตามกำหนดการแล้วผมจะไปญี่ปุ่นในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ครับ และผมก็จะไปญี่ปุ่นพร้อมๆ กับเพื่อนๆ พนักงานบริษัทไทยโอบายาชิที่อยู่ ณ ที่นี้ด้วยครับ

แม้ว่าผมจะเคยได้ยินมาก่อนว่าโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะเป็นโรงเรียนที่ดี แต่ตอนนี้ผมได้รู้แล้วล่ะครับว่าจริงๆ แล้วโรงเรียนแห่งนี้ดีหรือไม่ดีอย่างไร ทั้งนี้ก็ด้วยเหตุผล 3 ประการครับ ประการแรกคือ อาจารย์ทุกท่านทั้งน่ารักแล้วก็ใจดีครับ แต่ก็มีบางเวลาที่เข้มงวดด้วยเช่นกัน ด้วยพระคุณของคณาจารย์ ทำให้ผมค่อยๆ ใช้ภาษาญี่ปุ่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่เก่งหรอกนะครับ ประการต่อมา แน่นอนว่าเป็นเรื่องของการบ้านครับ การบ้านเปรียบเสมือนยาวิเศษสำหรับคนที่อยากจะเก่งภาษาญี่ปุนนะครับ ทั้งพวกเด็กๆ และพวกนักเรียนส่วนใหญ่ต่างก็จะไม่ชอบกินยากันใช่ไหมล่ะครับ แต่ก็เพราะว่ายาแบบนี้ไม่ใช่หรอกเหรอครับ ที่ทำให้ทุกคนแข็งแรง และเก่งขึ้นได้น่ะครับ ประการสุดท้าย คือเพื่อนๆ ครับ เพื่อนๆ คือเหตุผลหลักประการหนึ่งที่ทำให้ผมสามารถเรียนจบมาได้ ผมคิดว่าการที่ทุกคนร่วมมือ ช่วยเหลือกัน การได้เรียนร่วมกัน และได้ฝึกฝนการใช้ภาษากับเพื่อนๆ เป็นสิ่งที่ดีมากกว่านะครับ ช่วยเหลือกันไว้ดีกว่า ซึ่งผมเองก็ได้รับความร่วมมือและความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ มากเลยล่ะครับ

สุดท้ายนี้ ถ้าผมทำอะไรผิดพลาดไป ผมก็ต้องขอโทษจริงๆ นะครับ ขอบคุณทุกๆ คนที่ให้การดูแลหลายๆ อย่างเสมอมานะครับ ขอบคุณจริงๆ ครับ

 

วาเซดะเปิดรับสมัครเพื่อนร่วมงาน

ร่วมงานกับวาเซดะ


บริษัท วาเซดะ เอ็ดดูเคชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ประกาศรับสมัครเพื่อนร่วมงานค่ะ

โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ จัดตั้งด้วยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยวาเซดะ
ประเทศญี่ปุ่นและเครือสหพัฒน์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อพ.ศ.2545 เปิดสอนภาษาญี่ปุ่นด้วยหลักสูตรการสอน
และผู้สอนที่มีคุณภาพ เพื่อให้ผู้เรียนในประเทศไทยสามารถใช้ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่ว
และมีประสิทธิภาพในการทำงานหรือศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนี้ยังมีการจัดหลักสูตรอื่น ๆ เช่น งานอบรมสัมมนาเพื่อเผยแพร่ความรู้เชิงวิชาการ
และวัฒนธรรมญี่ปุ่นค่าย ภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น เป็นต้น

ทั้งนี้ โรงเรียน ฯ กำลังจะเปิดโรงเรียนใหม่ที่ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อขยายโอกาสการศึกษาภาษาญี่ปุ่น
ที่มีคุณภาพในวงกว้างมากขึ้น  ดังนั้น โรงเรียนจึงเปิดรับบุคลากรที่มีใจรักการบริการและงานการศึกษา
เพื่อร่วมสร้างโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ ศรีราชาให้เป็นศูนย์การศึกษาภาษา
และวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต

– ตำแหน่งและรายละเอียดที่เปิดรับสมัคร –

โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ (กรุงเทพฯ)

1. เจ้าหน้าที่ประสานงานภาษาต่างประเทศ

– เพศหญิง อายุไม่เกิน 30 ปี
– วุฒิการศึกษา ปริญญาตรี สาขาภาษาญี่ปุ่น หรือสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
– มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นระดับ N2 ขึ้นไป
– สามารถใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรม Microsoft Office ได้เป็นอย่างดี


โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น วาเซดะ
(ศรีราชา  จ.ชลบุรี)

1. เจ้าหน้าที่บริการวิชาการ

เพศหญิง อายุไม่เกิน 25 ปี

– วุฒิการศึกษา ปริญญาตรี

– บุคลิกภาพดี มนุษยสัมพันธ์ดี รักการบริการ

– มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นระดับ N4 ขึ้น ไป

– สามารถใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมMicrosoft Office ได้เป็นอย่างดี


2. เจ้าหน้าที่การตลาด

เพศหญิง อายุไม่เกิน 30 ปี

– วุฒิการศึกษา ปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจ หรือการตลาด หรือบริหารการศึกษา

– พูด อ่าน และเขียนภาษาอังกฤษได้ TOEIC 650 คะแนนขึ้นไป

– ถ้ามีความรู้ภาษาญี่ปุ่นระดับ N4 ขึ้นไป จะพิจารณาเป็นพิเศษ

– มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์กราฟฟิคจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ

– สามารถใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรม Microsoft Office ได้เป็นอย่างดี


3. เจ้าหน้าที่บริหารสำนักงาน

เพศหญิง อายุไม่เกิน 30 ปี

– วุฒิการศึกษา ปริญญาตรี

– พูด อ่าน และเขียนภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่นได้อย่างดี จะพิจารณาเป็นพิเศษ

– สามารถใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรม Microsoft Office ได้เป็นอย่างดี


4. เจ้าหน้าที่ประสานงานภาษาต่างประเทศ

เพศหญิง อายุไม่เกิน 30 ปี

– วุฒิการศึกษา ปริญญาตรี สาขาภาษาญี่ปุ่น หรือสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

– มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นระดับ N2 ขึ้นไป

– สามารถใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรม Microsoft Office ได้เป็นอย่างดี

ผู้ต้องการ สมัครงาน กรุณาส่งประวัติ พร้อมหลักฐานการศึกษาและเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยว ข้อง
มาที่ e-mail : // info@waseda.ac.th

หรือ สอบถามเพิ่ม เติมที่หมายเลข 02-670-3456
ติดต่อ คุณมนิดา เพ็งลำ

 
Leave a comment

Posted by on 07/14/2010 in Announcement

 

Role Play Project Work by Day Class 3-4 เทอมที่ 2/2553

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา นักเรียน Day Class 3-4  เทอมที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2553 จัดกิจกรรม Role Play Project Work โดย นำความรู้ใน หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นกลางวันเร่งรัดที่เรียนมาตลอดทั้งเทอม นำมาประยุกต์เป็นกิจกรรม PowerPoint Presentation เป็นภาษาญี่ปุ่น

This slideshow requires JavaScript.

 

ชมภาพกิจกรรม Role Play Project Work โดยนักเรียน Day Class 1-2 เทอมที่ 2/2553

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา นักเรียน Day Class 1-2  เทอมที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2553 จัดกิจกรรม Role Play Project Work โดย นำความรู้ใน หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นกลางวันเร่งรัดที่เรียนมาตลอดทั้งเทอม นำมาประยุกต์เป็นกิจกรรมละครสั้น ซึ่งกิจกรรมนี้จะช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาญี่ปุ่นของนักเรียนให้มี ประสิทธิภาพและใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น

+ + + ประมวลภาพกิจกรรม Role Play PROJECT WORK + + +
Day Class 1 – 2

สร้างสรรค์ละครสั้น โดยนำเนื้อหาในบทเรียนมาทำเป็นละคร
บทสนทนา  และฝึกการโต้ตอบเป็นภาษาญี่ปุ่น

This slideshow requires JavaScript.

 

ทำไมคนญี่ปุ่นถึงฆ่าตัวตายกันเยอะจัง?

วันนี้ผมคิดว่าอยากจะพูดถึงเรื่องปัญหาสังคมที่ร้ายแรงนะครับ
จากการรายงานของกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยระบุว่า ในปีค.ศ. 2009
มีผู้ฆ่าตัวตายในประเทศไทยถึง 3,634 ราย (แบ่งเป็นเพศชาย 2,807 ราย และเพศหญิง 827 ราย) ครับ

แต่ถ้าพูดถึงการฆ่าตัวตายแล้ว เป็นที่รู้กันทั่วโลกว่าประเทศญี่ปุ่นมีจำนวนผู้ฆ่าตัวตายเป็นจำนวนมาก
โดยจำนวนผู้ฆ่าตัวตายในรอบปี มีจำนวนมากถึง 32,753 ราย (สถิติในปีค.ศ. 2009)
ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่ากรณีของประเทศไทยถึง 10 เท่าครับ

และแม้จะดูจากอัตราส่วนการฆ่าตัวตาย ก็พบว่าคนไทยมีผู้ฆ่าตัวตายจำนวน 5.72 ราย
ขณะที่คนญี่ปุ่นมีผู้ฆ่าตัวตายถึง 25.8 ราย (จำนวนผู้ฆ่าตัวตายต่อจำนวนประชากร 1 แสนคน)
กล่าวคือคนญี่ปุ่นมีอัตราส่วนการฆ่าตัวตายมากกว่าคนไทยถึงประมาณ 5 เท่าครับ

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดข้อมูล เกี่ยวกับแจงจูงใจในการฆ่าตัวตายของคนญี่ปุ่นได้
จากเว็บไซต์ http://www.t-pec.co.jp/mental/2002-08-4.htm

จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น ระบุว่าผู้ที่ฆ่าตัวตายมีลักษณะพิเศษดังต่อไปนี้ครับ

–         ผู้ฆ่าตัวตายเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิงจำนวนมาก

–         ผู้ฆ่าตัวตายเป็นผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปีเป็นจำนวนมาก

–         ปัญหาสุขภาพเป็นสาเหตุราวครึ่งหนึ่งของการฆ่าตัวตายทั้งหมด

อนึ่ง ดูเหมือนว่ายังมีผู้ที่ปลิดชีวิตของตัวเองเป็นจำนวนมากด้วยสาเหตุเพราะ

“เมื่ออายุมากขึ้น ก็เริ่มเจ็บป่วย และไม่แน่ว่าจะสามารถรักษาให้หายได้หรือไม่
จึงไม่อยากสร้างความลำบากหรือรบกวนครอบครัวด้านการรักษาพยาบาลและดูแล” อีกด้วยครับ
สำหรับกลุ่มคนที่พยายามทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อประเทศชาติและครอบครัว
แต่กลับต้องมาจบชีวิตแบบนี้แล้ว ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากๆ เลยนะครับ

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก หรือ (WHO) ได้ระบุถึงการฆ่าตัวตายที่มีอัตราสูงของชาวญี่ปุ่นว่า
“ที่ญี่ปุ่น การฆ่าตัวตายได้ถูกมองเป็นเหมือนวัฒนธรรมอย่างหนึ่งไปเสียแล้ว อีกทั้งการฆ่าตัวตาย
ยังสามารถเป็นแบบแผน หรือครรลองทางศีลธรรม จริยธรรมที่แสดงถึงการรักษาเกียรติยศของตนเอง ห
รือการแสดงความรับผิดชอบได้อีกด้วย”

นอกจากนี้ สื่อของประเทศอังกฤษยังวิพากษ์วิจารณ์ว่า “สังคมญี่ปุ่นเป็นสังคมที่แทบจะไม่ให้โอกาสต่อบุคคล
ในการแก้ไข หรือฟื้นตัวจากความอับอายจากการล้มละลายหรือความผิดพลาดเลย รวมทั้งการฆ่าตัวตาย
ยังถูกยอมรับว่าเป็นแค่การกระทำตามชะตากรรมที่ต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อาทิ การฆ่าตัวตายของซามูไรก็ถูกตีค่าว่าเป็นการกระทำที่ประเสริฐยิ่ง” และสื่อของประเทศอังกฤษ
ยังได้กล่าวสรุปด้วยว่า “หากญี่ปุ่นเปลี่ยนเป็นสังคมที่ให้โอกาสการแก้ไขกลับตัว
และไม่คิดมากเรื่องความอับอายในชีวิตแล้วล่ะก็ การฆ่าตัวตายคงจะไม่ใช่เป็น
“เรื่องธรรมดา” อีกต่อไป” ด้วยครับ

คนญี่ปุ่นควรจะเรียนรู้เรื่อง “การไม่ยอมฆ่าตัวตายง่ายๆ” จากคนไทยเอาไว้นะครับ

 
1 Comment

Posted by on 07/07/2010 in By Khun Shu, Life in japan, News, Variety

 

เค้กปาร์ตี้ อำลาอาจารย์อะราอิ และอาจารย์โยโกตะ

This slideshow requires JavaScript.

 
 

ตามหา “คนหน้าเหมือน” กันได้นะครับ

ทุกคนเคยไหมครับที่เวลาเห็นหน้าใครสักคนในโทรทัศน์แล้วคิดว่า “เอ๊ะ เหมือนเคยเห็นคนหน้าตาแบบนี้ที่ไหนสักที่นะ”
ไม่ว่ากลุ่มคนเหล่านั้นจะมีทั้งนักร้อง ดารา นักการเมือง คนร้ายในคดีต่างๆ หรือแม้แต่นักกีฬา แต่ประเด็นสำคัญก็คือ
จะมีบางครั้งที่เรานึกไม่ออกว่า “คนๆ นั้นหน้าเหมือนใครกัน” ครับ

ในตอนนั้น สิ่งที่สำคัญสำหรับคนญี่ปุ่นก็คือ เว็บไซต์ที่ชื่อ 「soKKuri?」
ซึ่งช่วยให้คิดออกว่าคนที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น “ใครหน้าเหมือนใคร” ครับ
สามารถติดตามได้ที่ http://sokkuri.net/

พอป้อนข้อมูลชื่อของคนที่เราอยากรู้ว่าหน้าเหมือนใครลงไป
รายชื่อของคนที่มีชื่อเสียงที่หน้าตาเหมือนคนๆ นั้นก็จะปรากฏขึ้นมาครับ
พอได้ดูรูปใบหน้าต่างๆ ที่ปรากฏขึ้นมาแล้ว ก็จะมีการให้ลงคะแนนโหวตว่าหน้าตา “そっくり!(เหมือนกัน)”
หรือ “似てない (ไม่เหมือนกัน)” นอกจากนั้นยังมีการแสดง “อัตราส่วนของความเหมือน” เป็นเปอร์เซ็นต์
ตามสัดส่วนจำนวนเปอร์เซ็นต์ของคนที่ลงคะแนนว่า “そっくり!(เหมือนกัน)” อีกด้วย
จึงทำให้สามารถแยกแยะได้ว่าคนทั้งสองคนหน้าตาเหมือนกันหรือไม่อย่างไรได้อย่างแท้จริงครับ

อย่างเช่นในกรณีของคุณฮอนดะ นักกีฬาฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นที่เข้าร่วมแข่งขันในฟุตบอลโลก ก็มีผู้เข้ามาลงคะแนนว่ามีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับคาตาซึกิ ชินซากุ ซามูไรที่มีชื่อเสียงในสมัยเอโดะ ถึง 83 เปอร์เซ็นต์ครับ

นอกจากนี้ในกรณีของคุณโอซาว่า อิจิโร่ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปไตยแห่งญี่ปุ่น(ดีพีเจ) นักการเมืองที่ทรงอิทธิพลอย่างมากท่านหนึ่งของญี่ปุ่น ก็มีผลการลงคะแนนว่าหน้าตาคล้ายกับ “ราชานิโคจังจอมโหด” สิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่ปรากฏตัวในการ์ตูนเรื่องด๊อกเตอร์สลัมกับหนูน้อยอาราเล่ ถึง 89 เปอร์เซ็นต์ครับ ติดตามได้จากhttp://sokkuri.net/alike/ニコチャン大王/小沢一郎

ถ้าเมืองไทยมีเว็บไซต์แบบนี้บ้างก็คงจะน่าสนใจดีนะครับ