แบ่งปันข้อมูลมาจากกระสอบทรายไทยแลนด์
http://www.facebook.com/thailandsandbag
ประกาศงดการเรียนการสอนชั่วคราว
วาเซดะ (กรุงเทพฯ) ขอประกาศงดการเรียนการสอนดังนี้
* วันพุธที่ 26 – Evening Class
* วันพฤหัสที่ 27 – Day Class และ Evening Class
* วันศุกร์ที่ 28 – Day Class
* วันเสาร์ที่ 29 – Saturday Class
ส่วนวาเซดะ ศรีราชา เปิดการเรียนการสอนตามปกติ
ติดตามข่าวสาร ประกาศต่างๆได้ทางเว็บไซต์ หรือ facebook ของโรงเรียน
http://www.facebook.com/wasedathailand
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามหมายเลขโทรศัพท์ของแต่ละสาขา
—————————————————————————————
Dear Students,
Due to the flood situation in many areas of Bangkok,
Waseda Japanese Language and Culture School
will be closed
* Wednesday 26 – Evening Class
* Thursday 27 – Day Class และ Evening Class
* Friday 28 – Day Class
* Saturday 29 – Saturday Class
Any updates or changes will be posted immediately on our website
www.waseda.ac.th
or facebook http://www.facebook.com/wasedathailand
—————————————————————————————
สวัสดีชาววาเซดะทุกคนค่ะ ฉันชื่อ อารยา เป็นสุข หรือ พริก
จบการศึกษาระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนสาธิต”พิบูลบำเพ็ญ”มหาวิทยาลัยบูรพาค่ะ
จากนั้นก็สอบเอ็นทรานซ์ ติดที่คณะศิลปศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ถือว่าเป็นรุ่นสุดท้ายที่ต้องเอ็นทรานซ์ก่อนที่จะเปลี่ยนระบบใหม่นะคะ
จบออกมาด้วยเกียรตินิยมอันดับ1 ค่ะ อันนี้ต้องขอคุยนิดนึงนะคะเพราะเป็นเรื่องดี ^_^
ทราบมาว่าน้องพริกได้รับทุนมงบุโช
อยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับทุนที่ได้รับค่ะ
เป็นทุนมงบุโชประเภท Research Student ค่ะ เปิดรับสมัครช่วงพฤษภาคมของทุกปี
ทุนนี้ให้นักเรียนที่จบมหาลัยสมัครเพื่อเรียนต่อปริญญาโท และ ปริญญาเอก
เงื่อนไขรายละเอียดก็ดีมากเลยค่ะ เช่นคนที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นแบบพริกก็สามารถสมัครได้
เพียงแต่ต้องมีเกรดเฉลี่ยตามที่เขากำหนดเท่านั้นและสอบเป็นภาษาอังกฤษเอา
ส่วนคนที่มีพื้นภาษาญี่ปุนอยู่เเล้ว และมีเกรดเฉลี่ยค่อนข้างดี ก็ยิ่งมีโอกาสใหญ่
ผู้ที่ได้ทุนนี้ทุกคนพอไปถึงญี่ปุ่นแล้วต้องไปเรียนภาษาญี่ปุ่นก่อน ระยะเวลา6เดือน
จากนั้นก็เป็นนักศึกษาวิจัยอีก6เดือน ต่อไปเราก็ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เราเลือก
ให้ได้เพื่อเรียนปริญญาโทน่ะคะ สรุปคือการได้ทุนนี้ยังไม่การันตีว่าเราจะได้เรียน
ปริญญาโทเลยนะคะ ต้องพยายามกันอีกยาวทั้งเรื่องภาษา และแสดงให้ทางเจ้า
ของทุนเห็นว่าเราเป็นนักศึกษาวิจัยที่มี Potential พอค่ะ
ส่วนสาขาที่พริกเลือกไว้คือ Japanese Contemporary Culture and History
โดยเน้นด้านภาพยนตร์และประวัติศาสตร์ ไม่ได้เรียนเป็นผู้สร้างภาพยนตร์นะคะ
แต่เรียนเป็นผู้ดู ผู้วิเคราะห์ ผู้ถอดความสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในศิลปะเเขนงนี้ค่ะ
พริกเป็นคนชอบเรียนประวัติศาสตร์มานานแล้วค่ะ
ยิ่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุนนี่ยิ่งสนุกเลย
ทำไมจึงตัดสินใจมาเรียนภาษาญี่ปุ่นที่วาเซดะศรีราชา
ที่เลือกเรียนที่นี่เพราะรู้จักมหาวิทยาลัยวาเซดะค่ะ วาเซดะเป็นมหาวิทยาลัยที่ดังมากที่ญี่ปุ่น
ยังคิดอยากเข้าเรียนที่นั่นเลยเพียงแต่ไม่มีอาจารย์ที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญด้านที่เราจะเรียนน่ะคะ
ที่นี้พอรู้ว่าที่ศรีราชามีสาขาเปิดก็เลยมาเรียนที่นี่เพราะใกล้บ้าน อยู่กรุงเทพมันเปลือง
เพราะเราออกจากงานมาได้สักพักเเล้วหลังจากรู้ว่าได้ทุน
เพื่อนร่วมห้องเดย์คลาส 1 เป็นอย่างไรบ้าง
ช่วยเล่าบรรยากาศในห้องเรียนนิดนึงค่ะ
คิดไม่ผิดเลยที่เลือกที่นี่ คือตัวเองก็ไม่รู้ว่าที่อื่นยังไงนะคะเพราะไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นเลย
แต่ที่นี่สอนดีมาก คงไม่มีใครที่เรียนจบคอร์สนี้ไปโดยอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แน่ๆ
เพราะอาจารย์ละเอียดมากๆ ขนาดเขียนตัวอักษรฮิราคานะองศายังต้องเป๊ะๆเลย
ตัวเองโดนประจำ55 ในฐานะที่ใหม่กับภาษานี้มากมายก็ต้องขอบอกเลยว่าเป็นภาษา
ที่ท้าทายความสามารถมากค่ะ ได้ข่าวไซโคมาตลอดว่ายากนะ เตรียมตัวดีๆ
แต่เรากลับรู้สึกว่าเหมือนเจออะไรที่ใช่! 555อาจจะฟังดูเว่อร์ๆแต่จริงๆนะคะ
ภาษานี้สนุกกว่าอังกฤษอีก
ในฐานะที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่น (แบบจริงจัง) คิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เพื่อนๆที่เรียนด้วยกันน่ารักทุกคน เกือบทุกคนมีพื้นฐานมาแล้วบ้าง
อีกทั้งยังมีเซนเซที่บ้านช่วยด้วย โชคดีกันมาก แต่เราต้องพยายามหนักกว่าเพื่อนๆเท่าตัว
จะได้ไม่ถ่วงคนอื่นน่ะค่ะ เเต่ก็นะทุกคนในหัองซึ่งมีอยู่7 คนเท่านั้นเลยเหมือนเรียนแบบ
Private ทุกคนสนิทกันเร็วแล้วก็คอยช่วยเหลือกันตลอดเลยค่ะ
ปีหน้าจะต้องเดินทางไปเรียนที่ญี่ปุ่นแล้ว
และจะต้องไปใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นเป็นระยะเวลานานๆ มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
เตรียมตัวเฉพาะเรื่องเรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อเอาตัวรอดให้ได้ก่อน เรื่องอื่นๆเดี๋ยวทาง
สถานฑูตคงจะจัดการให้ตอนมกราคมปีหน้านะคะ เพราะต้องรอเอกสารตอบกลับ
จากทางรัฐบาลที่ญี่ปุ่นก่อน ตอนนี้ที่กังวลก็คือเรื่องภาษานี่แหล่ะค่ะ ส่วนการจากบ้าน
ไปนานๆคงต้องเหงาเป็นธรรมดาแต่ต้องอดทนค่ะเพื่ออนาคต ทุนมงบุโชเป็นทุนใหญ่มาก
ออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง แถมไม่ต้องกลับมาใช้ทุนอีกด้วย ถือเป็นประสบการณ์ครั้งใหญ่
ในชีวิตของคนๆนึงเลยก็ว่าได้ มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นขนาดนี้ต้องเหงาอยู่ต่างประเทศบ้างก็ยอมค่ะ
อาจารย์ที่วาเซดะ ศรีราชา เป็นอย่างไรบ้างคะ
อาจารย์ทุกท่านน่ารักมาก สอนดีแล้วก็ใจเย็นมาก เมื่อเห็นอะไรผิดก็จะแก้ไขให้ทันที
ทำให้เราเข้าใจเเจ่มแจ้งก่อนเสมอก่อนที่เราจะผ่านไปบทอื่น ทบทวนบทเรียนทุกครั้ง
บอกตามตรงว่าตอนเเรกเครียดมากๆเพราะไม่รู้ภาษาเลย ยังงงอยู่ว่าจะสอนกันยังไงหนอ^^
แต่ตอนนี้เริ่มคิดเริ่มพูดภาษาญี่ปุ่นเป็นต่อยหอยเเล้ว
เห็นอะไรก็นึกขึ้นเป็นญี่ปุ่นตลอด ตลกดีนะคะ
วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม โรงเรียนเปิดเรียนตามปกติ
ทั้งที่สาขากรุงเทพฯ และ ศรีราชา
หากนักเรียนท่านใดติดปัญหาเรื่องน้ำท่วม
เดินทางไม่สะดวก รบกวนแจ้งที่โรงเรียนเพื่อทราบเป็นข้อมูล
โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ
จัดกิจกรรมเรียนภาษาญี่ปุ่น Japanese Fun Course
ระหว่างวันที่ 3-14 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา
พร้อมกับกิจกรรมวัฒนธรรมตลอด 10 วันเต็มอย่างสนุกสนาน
ซึ่งจัดพร้อมกันทั้งที่วาเซดะ กรุงเทพฯ และ วาเซดะ ศรีราชา
เราขอบันทึกภาพความประทับใจเอามาแบ่งปันกันชม
และขอบคุณน้องๆทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมสนุกๆกับเราค่ะ
หวังว่าปิดเทอมครั้งหน้า พวกเราจะมาเจอกันอีกนะ … ^___^
>>>> Waseda Japanese Fun Course @ Bangkok
>>>> Waseda Japanese Fun Course @ Sriracha
พวกเราขอขอบคุณผู้สนับสนุนการจัดกิจกรรม
Waseda Sriracha Diary สวัสดีค่ะ
วันนี้ขออนุญาตแนะนำน้องๆนักศึกษาฝึกงาน
คนแรก จารุวรรณ ปิยะไพร หรือ โบว์
จบมัธยมปลายจากโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน
และ ปิยะวรรณ อัมรินทร์ หรือ บูม
จบมัธยมจากโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล
ตอนนี้ทั้งคู่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
เอกภาษาญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี ค่ะ
รับหน้าที่เป็นนักศึกษาฝึกงาน ประจำภาคเรียนที่ 4 ปีการศึกษา 2554
ระยะเวลา 1 เดือน ที่น้องๆทั้งสองคนจะได้มาหาประสบการณ์
การทำงานกับวาเซดะค่ะ
ทำไมจึงเลือกเรียนคณะนี้ สาขานี้
แรงบันดาลใจในการเลือกเรียน
โบว์ : ตั้งแต่ ม.ปลาย โบว์เรียนสายศิลป์ภาษาอังกฤษ-ญี่ปุ่นอยู่แล้วค่ะ
เพราะชอบประเทศญี่ปุ่นและภาษาญี่ปุ่นมากๆ พอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ตอนนั้นคิดว่าอยากจะทำงานที่ใช้ภาษาญี่ปุ่น ทำให้อยากเรียนภาษาญี่ปุ่น
ให้ลึกซึ้งมากขึ้น ก็เลยเลือกเรียนต่อทางด้านภาษาญี่ปุ่นที่มหาวิทยาลัยบูรพาค่ะ
บูม : ที่เลือกเรียนภาษาญี่ปุ่น เพราะว่าชอบค่ะ สนใจเกี่ยวกับญี่ปุ่นมาตั้งแต่ม.ต้นแล้ว
เช่นพวกการ์ตูน เพลง เลยเริ่มศึกษาตั้งแต่ตอนนั้น แล้วก็ไปเรียนพิเศษเพิ่มเติม
ตอนขึ้นม.ปลาย ก็เลือกเรียนสายศิลป์ญี่ปุ่น พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เลยเลือกเอก
ภาษาญี่ปุ่น เพื่อจะได้ต่อยอดความรู้ให้มากขึ้นไปอีกค่ะ
ทำไมจึงอยากมาฝึกงานที่วาเซดะ ศรีราชา
โบว์ : เคยได้ยินชื่อมหาวิทยาลัยวาเซดะมานานแล้วคะ พอรู้ว่ามาเปิดโรงเรียน
สอนภาษาที่เมืองไทยเลยยิ่งสนใจ เพราะวาเซดะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง
อีกที่หนึ่งในญี่ปุ่น พอได้ทราบข่าวจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ว่าโรงเรียนวาเซดะ
ศรีราชาต้องการนักศึกษาฝึกงานก็รีบส่งใบสมัครเลย เพราะคิดว่าโอกาสจะได้ร่วม
งานกับวาเซดะไม่ได้มีมาบ่อยๆ เลยจูงมือกับบูมมาหาค่าขนมก่อนไปญี่ปุ่นกันทั้งคู่
บูม : จริงๆ ไม่ได้รู้จักวาเซดะเป็นการส่วนตัว แค่เคยได้ยินเท่านั้น
แต่อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแนะนำให้มาลองทำดู
เพราะเราสามารถฝึกใช้ภาษาญี่ปุ่นที่เราเรียนมาในการทำงานที่นี่ได้ด้วย
หลังจากที่ได้มาฝึกงานที่นี่ เป็นอย่างไรบ้างคะ
โบว์ : สนุกมากจริงๆคะ ไม่ใช่ว่าได้เที่ยวเล่นอะไรถึงสนุก แต่ว่าสนุกเพราะได้ลอง
ทำงานหลายๆอย่าง ซึ่งงานแต่ละอย่างมันไม่ได้ยากเกินความพยายามของเราเลย
อย่างช่วง Japanese Fun Course ในบางครั้งก็จะเจออุปสรรคที่ไม่เหมือนกัน
พี่ๆสต๊าฟที่นี่ก็จะคอยให้คำแนะนำ เพื่อไปปรับใช้ในครั้งต่อไป เด็กๆฟันคอร์ส
แอบซนมากก TT^TT ต้องเล่นไล่จับกันทุกวัน แต่ว่าพอเห็นน้องๆสนุกกับการทำ
กิจกรรมที่เราเตรียมให้ ก็กลายเป็นกำลังใจให้เรา ทำให้คิดว่าครั้งต่อไปจะต้องทำ
ให้ดีกว่านี้ ได้ทำงานที่นี่แล้วรู้สึกว่าตัวเองต้องฟิตตลอดเวลา เพราะว่าที่วาเซดะ
ทั้งพี่ๆสต๊าฟ อาจารย์ชาวญี่ปุ่น พี่ๆแม่บ้าน ทุกคนเต็มที่กับงานมาก พูดแบบนี้อาจ
จะดูทั้งวันคงมีแต่เรื่องเครียด แต่ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ
ตลอดการฝึกงานที่ผ่านมาก็อบอุ่นมากๆเหมือนกัน
ทำให้ทุกวันที่ทำงานที่นี่มีความสุข
และก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากอีกอย่างหนึ่งด้วยค่ะ
บูม : สนุกมากเลยค่ะ แต่ก็แอบเหนื่อยด้วยเหมือนกัน ฮ่าๆๆ
การทำงานกับวาเซดะไม่ได้เคร่งเครียดมากนัก แต่เมื่อทำ
ก็ต้องตั้งใจแล้วก็ต้องจริงจังกับงานมากๆ
ถ้ามีข้อสงสัย พี่ๆ สต๊าฟก็จะคอยช่วยแนะนำตลอดเลยค่ะ
ช่วยเล่าบรรยากาศที่วาเซดะ ศรีราชา
โบว์ : มาถึงครั้งแรกถึงกับอ้าปากค้าง อารมณ์ประมาณว่า “โอ้โห..อลังการจริง!”
โรงเรียนสวยมากค่ะ ดูจากรูปกับอารมณ์มาเห็นกับตาจริงแตกต่างกันลิบลับ
ทุกอย่างดูทันสมัยสุดๆ โบว์เคยไปเรียนพิเศษภาษาญี่ปุ่นที่โรงเรียนสอนภาษาที่อื่น
แต่ไม่เคยเห็นโรงเรียนที่ไหนจะดูอลังการเท่าวาเซดะ ศรีราชาเลย
ห้องเรียนน่าเรียนมากๆ จนทำให้คิดว่าหลังจากฝึกงานจบแล้ว
อยากจะลงคอร์สเรียนดูบ้าง
บูม : ตอนที่มาเห็นสถานที่ทำงานวันแรกก็รู้สึกประทับใจมาก เป็นโรงเรียนสอนภาษา
และวัฒนธรรมเกี่ยวกับญี่ปุ่นที่ดูกว้างขวาง แล้วบรรยากาศโดยรอบก็ดีสุดๆ ไปเลยค่ะ
แถมยังมีโถงโล่งเอาไว้สำหรับให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรมอีกด้วย รวมไปถึงทุกคนที่ทำงานที่นี่
ทั้งอาจารย์ พี่ๆ สต๊าฟ แม่บ้าน ทุกคนยิ้มแย้มเจ่มใส มีน้ำใจ
แล้วก็ขยันทำงานกันมากๆ เลยค่ะ
งานที่น้องๆได้ทำที่นี่ มีอะไรบ้างคะ
โบว์ : งานที่ต้องรับผิดชอบหลักๆอย่างแรกเลยก็คือ Japanese Fun Course ค่ะ
ที่ต้องคอยดูแลน้องๆในชั่วโมงกิจกรรม ช่วยสอนการบ้าน แล้วก็คอยเตรียมกิจกรรมที่
เกี่ยวกับญี่ปุ่นให้น้องๆได้ทำ การเตรียมงานแต่ละครั้งก็ต้องคิดว่าจะทำให้น้องๆสนุก
กับกิจกรรมได้ยังไง มีการคิดเกมส์ให้น้องๆเล่นเพื่อเพิ่มความรู้ทางภาษาญี่ปุ่น
นอกจากนั้นก็เป็นงานออฟฟิส คอยช่วยเหลืองานพี่ๆสต๊าฟ เล็กๆน้อยๆตามโอกาส
แล้วก็ช่วยงานอาจารย์ชาวญี่ปุ่นบ้างค่ะ
บูม : งานที่ทำส่วนใหญ่ก็คือเป็นสต๊าฟคอยดูและเด็กๆ ในกิจกรรม Fun Course ค่ะ
และเพราะว่านี่เป็นการทำงานครั้งแรก เลยต้องเตรียมความพร้อมหลายเท่า
เนื่องจากการดูแลเด็กไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เหมือนจับปูใส่กระด้งสุดๆ
แต่ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนก็ยังยิ้มได้ค่ะ ฮ่าๆๆ นอกจากนี้ ก็ยังมีงานในสำนักงานด้วยค่ะ
ได้ข่าวมาว่า น้องๆได้ทุนไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย (โห …. เก่งจัง)
โบว์ : ทุนที่ได้นี้เป็นทุนที่มหาวิทยาลัยคันดะแลกเปลี่ยนกับมหาวิทยาลัยบูรพาค่ะ
คือคนที่ได้ทุนจะได้รับการยกเว้นค่าเทอม แล้วก็มีเงินก้อนในแต่ละเดือนให้ใช้ด้วย
ทุนนี้มีทุกๆปีค่ะ อย่างปีนี้ที่สอบไปก็ได้ทุนไป 4 คน โบว์กับบูมก็เป็น 2 คนในนั้น
ได้โอกาสไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น 1 ปีเต็ม ที่จังหวัดจิบะ ระยะเวลา 1 ปีค่ะ
บูม : บูมได้ทุนของคันดะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยคันดะเป็นเวลา 1 ปีค่ะ (เหมือนโบว์)
ทุนนี้ป็นทุนสำหรับนิสิตปี 3 เอกภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น โดยจะมีการสอบทั้งข้อเขียน
และเมื่อผ่านแล้วก็จะมีการสอบสัมภาษณ์ด้วย
คิดว่าไปอยู่ที่ญี่ปุ่น นอกจากเรียนแล้ว
มีโปรแกรมที่ตัวเองอยากทำมากๆ มีอะไรบ้าง
โบว์ : สิ่งที่อยากจะทำมีเยอะมากค่ะ แต่ที่อยากจะทำให้ได้คือ
ไปดูคอนเสิร์ตของศิลปินที่ชอบ >\\\< แล้วก็อยากไปดูการแสดงละครคาบูกิด้วยค่ะ
และก็ตั้งเป้าหมายไว้ก็คือ ในหนึ่งปีอยากจะเรียนรู้การใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่นให้ได้มากๆ
ทั้งวัฒนธรรม กฏเกณฑ์และมารยาท เพราะว่าคนญี่ปุ่นเป็นระเบียบและจริงจังกับทุกๆอย่าง
เลยอยากจะเอามาปรับใช้กับการทำงานของตัวเองในอนาคต
บูม : สิ่งที่อยากทำ ก็คือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นให้ได้มากที่สุด
และเพราะว่าตัวเองเป็นคนชอบท่องเที่ยว ก็เลยอยากจะไปเที่ยวในสถานที่ที่ตัวเอง
อยากไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่เงินในกระเป๋าจะเอื้ออำนวยค่ะ ฮ่าๆๆ
เรียนภาษาญี่ปุ่นยากไหม
โบว์ : สำหรับโบว์บอกได้คำเดียวว่ายากค่ะ เพราะว่าภาษาญี่ปุ่นมีการลำดับประโยค
ต่างกับภาษาไทย แถมมีคำช่วยยุบยิบเต็มไปหมด ซึ่งพอยิ่งเรียนระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ
ก็ยิ่งรู้ว่าภาษาญี่ปุ่นมีความละเอียดและซับซ้อนของไวยากรณ์ เยอะมาก
ไหนจะต้องคอยจำคันจิตัวใหม่ๆตลอดเวลา ทำให้เราต้องคอยฝึกฝนเรื่อยๆเป็นประจำ
เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้น จำได้แป๊ปเดียวก็ลืมแล้ว
บูม : การเรียนภาษาญี่ปุ่นนั้นไม่ง่ายเลย แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป
ที่ยากก็เป็นเพราะว่าไวยากรณ์นั้นซับซ้อน มีการผันกริยา มีการใช้ตัวช่วยต่างๆ
รวมไปถึงตัวอักษรที่มีมากกว่าภาษาไทยมาก นอกจากนี้ยังมีคันจิซึ่งเป็นตัวอักษร
เฉพาะที่เราจะต้องจำอีกด้วย แต่ถ้าเรามีความตั้งใจจริง มุ่งมั่นและพยายามศึกษา
ขยันอ่านหนังสือ รวมไปถึงทำแบบฝึกหัด ก็จะทำให้เราสามารถเก่งขึ้นได้แน่นอน
ฝากอะไรถึงคนที่กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่น และกำลังคิดอยากจะเรียนภาษาญี่ปุ่น
โบว์ : สำหรับคนที่เรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ ก็อยากให้สนุกกับการเรียนภาษาญี่ปุ่นมากๆนะคะ
อยากให้เรียนแบบไม่ใช่แค่ท่องจำอย่างเดียว ถ้าเมื่อไหร่ที่เริ่มท้อหรือเบื่อ ลองหาการ์ตูน
เพลง หรือละครมาดู จะทำให้เราได้ความรู้ภาษาญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น
โดยไม่รู้ตัวเลยคะ อย่างโบว์ก็ไม่ใช่คนที่ความจำดี และก็ไม่ขยันอ่านหนังสือมากมาย
แต่เวลาเรียนในห้องจะตั้งใจ และโบว์ก็ชอบดูรายการทีวีของญี่ปุ่น
พอได้ฟังคำศัทพ์บางคำบ่อยๆ เวลาเราไปเจอในชั้นเรียน
เราจะจำคำศัพท์นั้นได้ง่าย
สำหรับคนที่สนใจเรียนภาษาญี่ปุ่น ก็ให้ลองคิดดูก่อนว่าอยากเรียนไปทำอะไร
อยากจะเน้นในเรื่องไหน แล้วลองหาคอร์สที่สนใจและเหมาะสมกับตัวเอง
ที่เหลือก็แค่ความตั้งใจจริงแล้วคะ ไม่มีอะไรเกินความสารถของเราแน่นอน
สู้ๆนะคะทุกคน โบว์ก็จะสู้ด้วยเหมือนกัน …เฮ้!!
บูม : สำหรับคนที่กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ สู้ๆ
อย่าท้อหรือหมดกำลังใจในการเรียนนะคะ ส่วนสำหรับผู้ที่สนใจและกำลังคิดว่า
อยากจะเรียนภาษาญี่ปุ่น ก็อยากจะให้ศึกษาและหาข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนดูก่อน
ว่าตัวเราชอบจริงหรือเปล่า เพราะถ้าเกิดว่าเรามีใจรักที่จะเรียน
ก็จะทำให้เรามีแรงกระตุ้นในการเรียนได้มากขึ้นค่ะ ^___^
ประกาศผลรางวัลการประกวดแต่งกลอนไฮกุประกอบภาพวาด
ในหัวข้อ “เมืองศรีราชาในฝันของฉัน”
ชิงทุนการศึกษาจากวาเซดะ
รางวัลชนะเลิศระดับชั้นประถมศึกษา
ทุนการศึกษาหลักสูตรเตรียมความพร้อมภาษาญี่ปุ่น
Japanese Fun Course เดือนเมษายน 2555 มูลค่ารางวัลละ 7,500 บาท
จำนวน 2 รางวัล พร้อมโล่ห์รางวัลและใบประกาศเกียรติคุณจากโรงเรียนภาษา
และวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ
(1) ด.ญ.ปิยวรรณ หิรัญวัฒน์ อายุ 9 ปี ชั้น ป.4
โรงเรียนเซนต์ปอลคอนแวนต์
ศรีราชาในฝัน
มีเทคโนโลยีมากมาย
แต่ยังมีน้ำใจ
(2) ด.ญ.อักษราภัค เกียรติขจรฤทธิ์ อายุ 9 ปี ชั้น ป.4
โรงเรียนเซนต์ปอลคอนแวนต์
ร้อยชาติล้านเผ่าพันธุ์
รวมดวงใจเรียงร้อยร่วมกัน
สร้างสรรค์ศรีราชา
รางวัลชนะเลิศระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
ทุนการศึกษาหลักสูตรเตรียมความพร้อมภาษาญี่ปุ่น
Japanese Fun Course เดือนเมษายน 2555 มูลค่ารางวัลละ 7,500 บาท
จำนวน 2 รางวัล โล่ห์รางวัลและใบประกาศเกียรติคุณจากโรงเรียนภาษา
และวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ
(1) ด.ญ.ฤดีรัตน์ พันธุ์ลิขิตอาภรณ์ อายุ 13 ปี ชั้น ม.2
โรงเรียนเซนต์ปอลคอนแวนต์
ท้องฟ้าแสงเจิดจ้า
พรั่งพร้อมป่าเขาน้ำทะเล
ศรีราชาไฮเทค
(2) ด.ญ.มติมา ลิ้มประเสริฐ อายุ 15 ปี ชั้น ม.3
โรงเรียนชลกันยานุกูล
เมืองอิเล็กทรอนิกส์
มีอุตสาหกรรมไอน้ำ
ธรรมชาติคงอยู่
รางวัลชนะเลิศระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายและอาชีวศึกษา
ทุนการศึกษาหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นสุดสัปดาห์ (วันเสาร์ หรือ วันอาทิตย์)
ปีการศึกษา 2555 มูลค่ารางวัลละ 6,400 บาท จำนวน 2 รางวัล
โล่ห์รางวัลและประกาศเกียรติคุณจากโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ
(1) นางสาวธัชนันท์ กลิ่นโพธิ์ อายุ 17 ปี ชั้น ม.6
โรงเรียนเซนต์ปอลคอนแวนต์
ศรีราชาเงียบงาม
วิถีชีวิตไร้วุ่นวาย
หัวใจมากธรรมะ
(2) นางสาวอาภัสรา ต่อฑีฆะ อายุ 16 ปี ชั้น ม.4
โรงเรียนเซนต์ปอลคอนแวนต์
สถาปัตย์งามล้ำ
ฟูเฟื่องเรื่องวัฒนธรรม
งามนักศรีราชา
ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับรางวัล
命令形(めいれいけい)Ⅱグループ → V(dic-form)ろ → V(dic-form)れ
ex)おきろ → おきれ やめろ → やめれ
■ ~てください → ~でけれ
ex)食(た)べてください → 食(た)べでけれ やめてください → やめでけれ
■ objectの「を」→「ば」 / directionの「へ」→ 「さ」
ex)コーヒーを飲(の)む → コーヒーば飲(の)む 新聞(しんぶん)を買(か)った
→ 新聞(しんぶん)ば買(か)った
ex)東京(とうきょう)へ行(い)く → 東京(とうきょう)さ行(い)く
わせだへ来(く)る → わさださ来(く)る
■ ~でしょう? → ~べ?
ex)リカさんは日本人(にほんじん)でしょう? → リカさんは日本人(にほんじん)だべ?
あした、遊(あそ)びに行(い)くでしょう? → あした、あそびに行(い)くべ?
■ いろいろなひょうげん(expression)
・こんばんは → おばんです
・いくらですか → なんぼっしゃ
・どうしたんですか → なんだべ
・ はい、そうです → んだ
・わたし → おら
・ わたしのいえ → おらい
・(若(わか)い)女(おんな)の人(ひと) → おなご
・(若(わか)い)おとこの人(ひと) → やろこ
・めんこい → かわいい
・小(ちい)さい → ちゃっこい
・~よ → ~べ(さ)【女】/ ~べ(や)【男】
~ 練習問題(れんしゅうもんだい)です♪ 意味(いみ)がわかりますか? ~
① A:おばんです。
B:おばんです。中(なか)に入(はい)っでけれ。
② A:これ、なんぼっしゃ。
B:150円(えん)、おらいでつくったから、安(やす)いんだ。
③ A:ちゃっこくて、めんこいおなごだべや。
B:んだ。
A:あ!
B:なんだべ。
A:あれ、見(み)れ。やろこといっしょにいるべ。
※ 方言(ほうげん)は、同(おな)じ県(けん)でもいろいろ違(ちが)いますが、
私(わたし)が子(こ)どものときに聞(き)いていたことばです。
(私(わたし)の父(ちち)は、宮城県仙台市(みやぎけんせんだいし)、
母(はは)は宮城県石巻市(みやぎけんいしのまきし)で生(う)まれました。)
タイにも方言(ほうげん)がありますか?こんど、ぜひ教(おし)えてください。
(書(か)いた人(ひと):鈴木(すずき)すみれ )