สวัสดีชาววาเซดะทุกคนค่ะ ฉันชื่อ อารยา เป็นสุข หรือ พริก
จบการศึกษาระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนสาธิต”พิบูลบำเพ็ญ”มหาวิทยาลัยบูรพาค่ะ
จากนั้นก็สอบเอ็นทรานซ์ ติดที่คณะศิลปศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ถือว่าเป็นรุ่นสุดท้ายที่ต้องเอ็นทรานซ์ก่อนที่จะเปลี่ยนระบบใหม่นะคะ
จบออกมาด้วยเกียรตินิยมอันดับ1 ค่ะ อันนี้ต้องขอคุยนิดนึงนะคะเพราะเป็นเรื่องดี ^_^
ทราบมาว่าน้องพริกได้รับทุนมงบุโช
อยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับทุนที่ได้รับค่ะ
เป็นทุนมงบุโชประเภท Research Student ค่ะ เปิดรับสมัครช่วงพฤษภาคมของทุกปี
ทุนนี้ให้นักเรียนที่จบมหาลัยสมัครเพื่อเรียนต่อปริญญาโท และ ปริญญาเอก
เงื่อนไขรายละเอียดก็ดีมากเลยค่ะ เช่นคนที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นแบบพริกก็สามารถสมัครได้
เพียงแต่ต้องมีเกรดเฉลี่ยตามที่เขากำหนดเท่านั้นและสอบเป็นภาษาอังกฤษเอา
ส่วนคนที่มีพื้นภาษาญี่ปุนอยู่เเล้ว และมีเกรดเฉลี่ยค่อนข้างดี ก็ยิ่งมีโอกาสใหญ่
ผู้ที่ได้ทุนนี้ทุกคนพอไปถึงญี่ปุ่นแล้วต้องไปเรียนภาษาญี่ปุ่นก่อน ระยะเวลา6เดือน
จากนั้นก็เป็นนักศึกษาวิจัยอีก6เดือน ต่อไปเราก็ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เราเลือก
ให้ได้เพื่อเรียนปริญญาโทน่ะคะ สรุปคือการได้ทุนนี้ยังไม่การันตีว่าเราจะได้เรียน
ปริญญาโทเลยนะคะ ต้องพยายามกันอีกยาวทั้งเรื่องภาษา และแสดงให้ทางเจ้า
ของทุนเห็นว่าเราเป็นนักศึกษาวิจัยที่มี Potential พอค่ะ
ส่วนสาขาที่พริกเลือกไว้คือ Japanese Contemporary Culture and History
โดยเน้นด้านภาพยนตร์และประวัติศาสตร์ ไม่ได้เรียนเป็นผู้สร้างภาพยนตร์นะคะ
แต่เรียนเป็นผู้ดู ผู้วิเคราะห์ ผู้ถอดความสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในศิลปะเเขนงนี้ค่ะ
พริกเป็นคนชอบเรียนประวัติศาสตร์มานานแล้วค่ะ
ยิ่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุนนี่ยิ่งสนุกเลย
ทำไมจึงตัดสินใจมาเรียนภาษาญี่ปุ่นที่วาเซดะศรีราชา
ที่เลือกเรียนที่นี่เพราะรู้จักมหาวิทยาลัยวาเซดะค่ะ วาเซดะเป็นมหาวิทยาลัยที่ดังมากที่ญี่ปุ่น
ยังคิดอยากเข้าเรียนที่นั่นเลยเพียงแต่ไม่มีอาจารย์ที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญด้านที่เราจะเรียนน่ะคะ
ที่นี้พอรู้ว่าที่ศรีราชามีสาขาเปิดก็เลยมาเรียนที่นี่เพราะใกล้บ้าน อยู่กรุงเทพมันเปลือง
เพราะเราออกจากงานมาได้สักพักเเล้วหลังจากรู้ว่าได้ทุน
เพื่อนร่วมห้องเดย์คลาส 1 เป็นอย่างไรบ้าง
ช่วยเล่าบรรยากาศในห้องเรียนนิดนึงค่ะ
คิดไม่ผิดเลยที่เลือกที่นี่ คือตัวเองก็ไม่รู้ว่าที่อื่นยังไงนะคะเพราะไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นเลย
แต่ที่นี่สอนดีมาก คงไม่มีใครที่เรียนจบคอร์สนี้ไปโดยอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แน่ๆ
เพราะอาจารย์ละเอียดมากๆ ขนาดเขียนตัวอักษรฮิราคานะองศายังต้องเป๊ะๆเลย
ตัวเองโดนประจำ55 ในฐานะที่ใหม่กับภาษานี้มากมายก็ต้องขอบอกเลยว่าเป็นภาษา
ที่ท้าทายความสามารถมากค่ะ ได้ข่าวไซโคมาตลอดว่ายากนะ เตรียมตัวดีๆ
แต่เรากลับรู้สึกว่าเหมือนเจออะไรที่ใช่! 555อาจจะฟังดูเว่อร์ๆแต่จริงๆนะคะ
ภาษานี้สนุกกว่าอังกฤษอีก
ในฐานะที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่น (แบบจริงจัง) คิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เพื่อนๆที่เรียนด้วยกันน่ารักทุกคน เกือบทุกคนมีพื้นฐานมาแล้วบ้าง
อีกทั้งยังมีเซนเซที่บ้านช่วยด้วย โชคดีกันมาก แต่เราต้องพยายามหนักกว่าเพื่อนๆเท่าตัว
จะได้ไม่ถ่วงคนอื่นน่ะค่ะ เเต่ก็นะทุกคนในหัองซึ่งมีอยู่7 คนเท่านั้นเลยเหมือนเรียนแบบ
Private ทุกคนสนิทกันเร็วแล้วก็คอยช่วยเหลือกันตลอดเลยค่ะ
ปีหน้าจะต้องเดินทางไปเรียนที่ญี่ปุ่นแล้ว
และจะต้องไปใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นเป็นระยะเวลานานๆ มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
เตรียมตัวเฉพาะเรื่องเรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อเอาตัวรอดให้ได้ก่อน เรื่องอื่นๆเดี๋ยวทาง
สถานฑูตคงจะจัดการให้ตอนมกราคมปีหน้านะคะ เพราะต้องรอเอกสารตอบกลับ
จากทางรัฐบาลที่ญี่ปุ่นก่อน ตอนนี้ที่กังวลก็คือเรื่องภาษานี่แหล่ะค่ะ ส่วนการจากบ้าน
ไปนานๆคงต้องเหงาเป็นธรรมดาแต่ต้องอดทนค่ะเพื่ออนาคต ทุนมงบุโชเป็นทุนใหญ่มาก
ออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง แถมไม่ต้องกลับมาใช้ทุนอีกด้วย ถือเป็นประสบการณ์ครั้งใหญ่
ในชีวิตของคนๆนึงเลยก็ว่าได้ มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นขนาดนี้ต้องเหงาอยู่ต่างประเทศบ้างก็ยอมค่ะ
อาจารย์ที่วาเซดะ ศรีราชา เป็นอย่างไรบ้างคะ
อาจารย์ทุกท่านน่ารักมาก สอนดีแล้วก็ใจเย็นมาก เมื่อเห็นอะไรผิดก็จะแก้ไขให้ทันที
ทำให้เราเข้าใจเเจ่มแจ้งก่อนเสมอก่อนที่เราจะผ่านไปบทอื่น ทบทวนบทเรียนทุกครั้ง
บอกตามตรงว่าตอนเเรกเครียดมากๆเพราะไม่รู้ภาษาเลย ยังงงอยู่ว่าจะสอนกันยังไงหนอ^^
แต่ตอนนี้เริ่มคิดเริ่มพูดภาษาญี่ปุ่นเป็นต่อยหอยเเล้ว
เห็นอะไรก็นึกขึ้นเป็นญี่ปุ่นตลอด ตลกดีนะคะ