みなさん、こんにちは。
約2週間の福島(ふくしま)滞在(たいざい)が終わり、
昨日(4月12日)東京(とうきょう)へもどりました。
いま、このブログを羽田空港(はねだくうこう)の
出発(しゅっぱつ)ロビーで書いています。
今日(13日)は会議のため早稲田大学(わせだだいがく)へ
行ってきました。
まだ寒い福島ではつぼみだった桜(さくら)が、大学のキャンパスでは
もう散(ち)りはじめていました。
タイでもよく知られているように、日本人にとって桜は特別(とくべつ)な
花です。
花を咲(さ)かせるのは1年のうちほんの2週間たらず。
長く寒い冬をのりこえ、つぼみをふくらませたかと思うと、薄ピンクの花が
木の枝いっぱいに咲きほこり、あっという間に散っていくのです。
桜はとてもうつくしい花ですが、日本人はそこに人生(じんせい)の
短(みじか)さを重ね合わせます。
満開(まんかい)の桜の下を歩くと、「あと何回、この桜を
見ることができるだろう」という悲(かな)しみに似た
感情(かんじょう)がこみあげてくることもあります。
桜を楽しむことのできる回数が、残りの人生の年数に等しいことを、
日本人なら誰に教えられなくとも知っているのかもしれません。
地震と津波の被害を受けた福島から青森(あおもり)にかけての東北地方では、
4月中旬から下旬にかけて桜の季節(きせつ)をむかえます。
เขตพื้นที่หนาวๆอย่างฟุคุชิมะดอกซากุระยังไม่บานครับ
แต่ที่มหาวิทยาลัยวาเซดะดอกซากุระเริ่มที่จะร่วงโรยแล้ว
แม้แต่คนไทยเองก็รู้ดีว่า
สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วดอกซากกุระเป็นดอกไม้ที่มีความสำคัญเป็นพิเศษ
การที่ดอกซากุระบาน ในช่วงเวลา 1 ปี จะบานเพียงแค่ไม่ถึง 2 อาทิตย์เท่านั้นเอง
ผมคิดว่าเมื่อผ่านพ้นฤดูหนาวที่ยาวนานก็จะทำให้ดอกตูมนั้นผลิบาน
ดอกสีชมพูอ่อนจะผลิบานเต็มต้น จากนั้นก็จะร่วงหล่นไปในพริบตา
ถึงดอกซากุระเป็นดอกไม้ที่สวย
แต่ชาวญี่ปุ่นก็ได้นำช่วงเวลาอันสั้นของดอกซากุระบาน
ไปเปรียบเทียบกับชีวิตคน
เมื่อเดินใต้ต้นซากุระที่บานเต็มที่
ผมก็เคยมีรู้สึกเศร้าขึ้นมาว่า
“จากนี่ไป ผมจะได้ชมซากุระได้สักกี่ครั้งนะ”
ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นล่ะก็ คงจะรู้ดีว่า
ไม่มีใครไม่สามารถบอกได้เหมือนกันๆว่า
จะมีชีวิตเหลืออีกเท่าไหร่ ที่จะสามารถชมอกอกซากุระได้
ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่จังหวัดฟุคุชิมะ
ไปถึงจังหวัดอะโอะโมริที่ได้รับภัยจากแผ่นดินไหวและคลื่นซึนามิ
จะเข้าสู่ฤดูกาลดอกซากุระบาน ตั้งแต่เดิอนกลางเดือนเมษาเมษายน
ไปจนถึงประมาณสิ้นเดือนเมษายน
* วาเซดะขอขอบคุณ คุณอ้อย อรพินท์ ปทุมมณีสุข นักเรียนหลักสูตรภาคค่ำ
ที่ช่วยแปลบทความตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนจบ
ขอบคุณมากๆค่ะ ไว้มีโอกาสมาร่วมกิจกรรมแปลอีกนะคะ